เลื่อนลงล่าง

อุทยานแห่งชาติกุยบุรี

20/05/59

Tag

Count :

Share

“...ช้างป่าควรอยู่ในป่า เพียงแต่ต้องทำให้ป่านั้นมีอาหารช้างเพียงพอ การปฏิบัติคือ ให้ไปสร้างอาหารช้างในป่าเป็นแปลงเล็กๆ และกระจาย กรณีช้างป่าออกมาที่ชายป่า ต้องให้ความปลอดภัยกับช้างป่า...”
       พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2542 ต่อการจัดการความขัดแย้งคนกับช้างป่า อุทยานแห่งชาติกุยบุรี
       พระราชดำรัสข้างต้นถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญต่อการแก้ปัญหา บริหารจัดการความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่าแห่งผืนป่ากุยบุรี ซึ่งเดิมผืนป่าแห่งนี้มีความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่าสูงมากเพราะหลังจากผืนป่ากุยบุรีถูกทำลายเรื่อยมากว่า 60 ปีเพื่อใช้เป็นพื้นที่ปลูกสับปะรด ทำให้แหล่งอาหาร แหล่งหากินของสัตว์ป่าถูกทำลายลดน้อยถอยลง 

... ท่านสามารถรับชมวีดีโอเกียวกับอุทยานแห่งชาติกุยบุรีได้ที่นี่ ... 

ภาพโดย http://travel.kapook.com/view30510.html

         ชมช้างป่า อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จัดสถานที่ชมช้างป่า สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจชมช้างป่าตามธรรมชาติ ชมชีวิตความเป็นอยู่ช่วงหนึ่งของช้างที่ลงมากินน้ำ อาบน้ำ และหาอาหาร ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการชมช้างป่า คือ ระหว่างเวลา 15.00 - 18.00 น. และสำหรับผู้ที่มีความสนใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับการอนุรักษ์ช้าง ทางอุทยานแห่งชาติร่วมกับชมรมต่างๆ จัดกิจกรรมวันอนุรักษ์ช้างไทย ระหว่างวันที่ 11 - 12 มีนาคม ของทุกปี ผู้ที่สนใจชมช้างป่าหรือเข้าร่วมกิจกรรมขอให้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติโดยตรง

ภาพโดย http://travel.kapook.com/view30510.html

          จุดชมทิวทัศน์สันมะค่า เป็นจุดชมทิวทัศน์ ณ จุดนี้ ในช่วงเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ นักท่องเที่ยวสามารถชมทะเลหมอกและน้ำตกได้

ภาพโดย huahinvacationtours.com

          น้ำตกด่านมะค่า น้ำตกด่านมะค่า เป็นน้ำตกที่เกิดจากต้นน้ำกุยบุรีแพรกซ้าย มีความสูงของน้ำตกประมาณ 6 - 7 เมตร อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ 5 กิโลเมตร

ภาพโดย http://park.dnp.go.th/visitor/

          น้ำตกผาสวรรค์ น้ำตกผาสวรรค์ เป็นน้ำตกที่เกิดจากต้นน้ำ กุยบุรีแพรกซ้าย มีชั้นน้ำตก 5 ชั้น น้ำตกชั้นที่ 5 เป็นชั้นที่สวยที่สุด มีความสูงประมาณ 7 เมตร อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ประมาณ 7 กิโลเมตร

ภาพโดย อุทยานแห่งชาติกุยบุรี

          น้ำตกผาหมาหอน น้ำตกผาหมาหอน เป็นน้ำตกที่มีระดับ ลดหลั่นกันลงมา 3 ชั้น เกิดจากต้นน้ำกุยบุรีแพรกซ้าย มีลักษณะเป็นผาลาดสูงชันเกือบตั้งฉาก มีสายน้ำใสไหลแรงตลอดเวลา บริเวณตอนกลางมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ และบริเวณพื้นล่างมีพันธุ์ไม้จำนวนมาก เช่น เฟิร์น ปาล์มหลากชนิดเหมาะแก่การเดินชมศึกษาสภาพธรรมชาติและพักผ่อนหย่อนใจ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ประมาณ 15 กิโลเมตร โดยการเดินทางด้วยเท้า

ภาพโดย อุทยานแห่งชาติกุยบุรี

         น้ำตกห้วยดงมะไฟ  น้ำตกห้วยดงมะไฟ เป็นน้ำตกที่ลดหลั่นกันลงมา 15 ชั้น จากต้นน้ำกุยบุรีแพรกขวามีลักษณะเป็นแก่งหินแกรนิต มีแอ่งน้ำสำหรับเล่นได้ มีความสวยงามร่มรื่นของสภาพป่าสองฝั่งลำธารน้ำใสและบริสุทธิ์มาก เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจได้เป็นอย่างดีอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ประมาณ 11 กิโลเมตร โดยการเดินทางด้วยเท้า

ภาพโดย อุทยานแห่งชาติกุยบุรี

        เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ อยู่ในบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร เส้นทางผ่านป่าดิบแล้ง ซึ่งมีสิ่งที่น่าสนใจ เช่น เถาวัลย์ ไทร จุดชมทิวทัศน์ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีร่องรอยของช้างป่าให้พบเห็นได้ทั่วไป ทั้งกองมูลและรอยตีนช้าง หากต้องการศึกษาสภาพการดำรงชีวิตของช้างป่าสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ กร.1 (ป่ายาง) หมู่ที่ 7 ตำบลหาดขาม อำเภอกุยบุรี เวลาที่เหมาะสมในการชมช้างป่าอยู่ในช่วง 15.00-18.00 น.

ภาพโดย อุทยานแห่งชาติกุยบุรี

          ดูผีเสื้อ ดที่น่าสนใจสำหรับการดูผีเสื้ออยู่บนเส้นทางศึกษาธรรมชาติ

  

ภาพโดย อุทยานแห่งชาติกุยบุรี

 

 

 

 ข้อมูลทั่วไป    
         อุทยานแห่งชาติกุยบุรี มีพื้นที่ครอบคลุมในท้องที่อำเภอปราณบุรี กิ่งอำเภอสามร้อยยอด อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นป่าต้นน้ำลำธาร ประกอบด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญและมีค่า เช่น พันธุ์ไม้ ของป่า สัตว์ป่า ตลอดจนทิวทัศน์ที่สวยงาม เพื่อให้คงอยู่ในสภาพธรรมชาติเดิม มิให้ถูกทำลายหรือเปลี่ยนแปลงไป เพื่อประโยชน์แก่การศึกษา และรื่นรมย์ของประชาชน มีเนื้อที่ประมาณ 605,625 ไร่ หรือ 969 ตารางกิโลเมตร 

       ความเป็นมา : จากสถานการณ์ป่าไม้ในปัจจุบันพบว่า พื้นที่ป่าไม้ถูกทำลายจนน่าวิตกว่าจะมีปริมาณไม่เพียงพอที่จะรักษาสภาพสมดุลธรรมชาติเอาไว้ ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดกรณีอันน่าสลด หากไม่เร่งดำเนินการรักษาสภาพธรรมชาติเอาไว้ ดังนั้น กรมป่าไม้จึงมีคำสั่ง ที่ 475/2532 ลงวันที่ 22 มีนาคม 2532 ให้ นายจุมพล เจริญสุขพาณิชย์ เจ้าพนักงานป่าไม้ 4 กองอุทยานแห่งชาติไปดำเนินการสำรวจเบื้องต้นที่ป่าบริเวณวนอุทยานปราณบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง เขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองเก่า-คลองคอย และกรมป่าไม้มีคำสั่ง ที่ 1627/2532 ลงวันที่ 19 ตุลาคม 2532 ให้นายสรรเพชร ราคา เจ้าพนักงานป่าไม้ 5 กองอุทยานแห่งชาติ ไปดำเนินการสำรวจเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการจัดตั้งพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติกุยบุรี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 โดยให้ทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี 

        ผลการสำรวจพบว่า สภาพพื้นที่โดยทั่วไปเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน เป็นป่าผืนใหญ่อยู่ทางทิศตะวันตกติดต่อกับชายแดนพม่า เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาตะนาวศรี ประกอบด้วยป่าดิบชื้น ป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ หนาแน่นด้วยพันธุ์ไม้ที่มีค่าทางเศรษฐกิจมากมาย เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด ซึ่งราษฎรได้บุกรุกพื้นที่ใช้ในการเพาะปลูก ส่วนใหญ่ทำไร่สับปะรด และเป็นที่อยู่อาศัย ตามหนังสือรายงานผลการสำรวจที่ กษ 0713(กร)/19 ลงวันที่ 29 มกราคม 2536 

        กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ จึงได้เสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติซึ่งมีมติในการประชุมครั้งที่ 2/2537 เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2537 สมควรกำหนดพื้นที่ป่ากุยบุรีให้เป็นอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้จึงได้ดำเนินการเพิกถอนป่ากุยบุรี และดำเนินการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 แล้ว ประกอบด้วยพื้นที่ทั้งหมด 605,625 ไร่ โดยได้ตราพระราชกฤษฎีกากำหนดที่ดินป่ากุยบุรี ในท้องที่ตำบลเขาจ้าว อำเภอปราณบุรี ตำบลศิลาลัย ตำบลศาลาลัย ตำบลไร่เก่า ตำบลไร่ใหม่ กิ่งอำเภอสามร้อยยอด อำเภอปราณบุรี ตำบลหาดขาม ตำบลสามกระทาย ตำบลกุยบุรี และตำบลบ่อนอก ตำบลอ่าวน้อย ตำบลเกาะหลัก ตำบลคลองวาฬ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 116 ตอนที่ 20ก วันที่ 25 มีนาคม 2542 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 90 ของประเทศ 


 ลักษณะภูมิประเทศ    
        สภาพทั่วไปเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน แนวเขาขวางตัวในทิศเหนือ-ใต้ เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาตะนาวศรี อันเป็นเทือกเขาซึ่งกั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศพม่า ซึ่งมีสภาพพื้นที่แบ่งออกเป็นสองลักษณะ คือ แบบลูกคลื่นลอนชั้นถึงเนินเขา มีความลาดชันประมาณ 80-100 เมตร พื้นที่ส่วนใหญ่จะถูกบุกรุกแผ้วถางทำไร่สับปะรด อ้อย ผักต่างๆ และแบบภูเขา ประกอบด้วยภูเขาสูงชัน ลาดชันประมาณ 35% และอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 750 เมตรขึ้นไป ประกอบด้วยเขาวังไทรดิ่ง เขาหนองหว้า..เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของลำห้วยลำธารหลายสาย เช่น ห้วยตะลุยแพรกขวา ห้วยตะลุยแพรกซ้าย คลองกุย เป็นต้น

 ลักษณะภูมิอากาศ    
         อุทยานแห่งชาติกุยบุรี มีภูมิอากาศจัดอยู่ในประเทศฝนเมืองร้อน เฉพาะฤดู (Tropical Savannah Climate) กล่าวคือ อุณหภูมิจะสูงตลอดทั้งปี และมีช่วงแล้งที่เห็นได้ชัดในรอบปี ทั้งนี้ตามระบบการจำแนกทางภูมิศาสตร์ ลักษณะข้างต้นเป็นภูมิอากาศแบบกึ่งชื้นแล้ง โดยมีช่วงกลางวันยาวในฤดูร้อน และกลางวันสั้นในฤดูหนาว จะมีช่วงที่มีน้ำมากเกินเพียงพอเป็นระยะเวลาสั้นๆ หรือไม่มีเลย มีฤดูใหญ่อยู่ 3 ฤดู คือ ฤดูฝนจะเริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม จนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน เป็นระยะเวลาประมาณ 7 เดือน โดยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งลมนี้พัดมาจากมหาสมุทรอินเดีย โดยฝนจะหนักในเดือนพฤษภาคม แล้วฝนจะทิ้งช่วงในเดือนมิถุนายน และเดือนกรกฎาคม หลังจากนั้นฝนจะตกหนักในช่วงเดือนสิงหาคม ถึงเดือนพฤศจิกายน มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,179 มิลลิเมตร ฤดูหนาวเริ่มตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม ถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ในระยะนี้จะเป็นมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งลมนี้จะพัดมาจากบริเวณความกดอากาศสูงในทะเลจีนใต้ซึ่งจะพัดเอาความร้อนชื้นมา อุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 25 องศาเซลเซียส ฤดูร้อนเริ่มตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ ถึง กลางเดือนพฤษภาคม โดยระยะนี้เป็น ช่วงรอยต่อของฤดูลมมรสุมหลังจากสิ้นฤดูลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว อากาศจะเริ่มร้อน และมีอากาศร้อนที่สุดในเดือนเมษายน แต่ไม่ร้อนมากนักเนื่องจากภูมิประเทศเป็นคาบสมุทรอยู่ใกล้ทะเล กระแสลมและไอน้ำจากทะเลทำให้อากาศคลายร้อนลงไป อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 29 องศาเซลเซียส

 พืชพรรณและสัตว์ป่า    
      สภาพป่าโดยทั่วไปเป็นป่าดิบแล้งและป่าดิบชื้นที่อุดมสมบูรณ์ มีพันธุ์ไม้ที่สำคัญได้แก่ พลอง ทะลายเขา เขล็ง กระชิด พลวง สมอ ตะเคียนหิน มะไฟป่า พืชตระกูลปาล์มชนิดต่างๆ เช่น หมากเขียว หวายชนิดต่างๆ เต่าร้าง โดยเฉพาะหวายมีเป็นจำนวนมาก พืชชั้นล่างหลายชนิด เช่น พวกพืชในวงศ์ขิง ข่า เฟิน บอน เป็นต้น

     สำหรับสัตว์ป่ายังมีชุกชุม เนื่องจากมีแหล่งน้ำและอาหารสมบูรณ์ สัตว์ป่าทั่วไป ได้แก่ ช้างป่า กระทิง วัวแดง กวางป่า หมี เก้ง สมเสร็จ ชะนี ลิง ค่าง เลียงผา กระจง หมูป่า กระต่ายป่า ฯลฯ นอกจากนั้นยังมีนกชนิดต่างๆ เช่น นกกาฮัง ไก่ป่า นกระวังไพร นกกางเขนดง นกเขา นกยางกรอก นกยางแดง และยังมีสัตว์เลื้อยคลานได้แก่ เต่า ตะพาบน้ำ และสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ได้แก่ กบทูด คางคก เขียด และปลาชนิดต่างๆ 


          

สิ่งอำนวยความสะดวก 

         อุทยานแห่งชาติอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เป็นอุทยานที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกคอยให้บริการนักท่องเที่ยวอย่างครบครันไม่ว่าจะเป็น ที่พักแรม/บ้านพัก ลานกางเต็นท์ - ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ที่จอดรถ ห้องน้ำ-ห้องสุขาชาและห้องน้ำ-ห้องสุขาหญิง

 

 


 

 

รถยนต์
           จากกรุงเทพฯ เดินทางล่องใต้ตามหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ประมาณหลักกิโลเมตรที่ 290 แยกขวาเข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข 3217 (กุยบุรี - ยางชุม) ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร ถึงบ้านยางชุม แล้วแยกซ้ายตามถนนข้างอ่างเก็บน้ำยางชุม ถึงบ้านย่านซื่อ ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร จากนั้นแยกซ้ายระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ การเดินทางสะดวกเป็นถนนลาดยางตลอดเส้นทางการเดินทาง

รถไฟ
          จากกรุงเทพฯ ขึ้นรถไฟที่สถานีหัวลำโพง ซื้อตั๋วโดยสารกรุงเทพฯ - อำเภอกุยบุรี ลงที่สถานีอำเภอกุยบุรี จากนั้นจ้างเหมารถ เดินทางต่อไปที่ทำการอุทยานแห่งชาติ

รถโดยสารประจำทาง
         จากกรุงเทพฯ ขึ้นรถโดยสารที่สถานีขนส่งสายใต้ เลือกโดยสารใดก็ได้ที่เดินทางไปใต้ เนื่องจากทุกสายจะผ่านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แจ้งพนักงานขับรถหรือพนักงานเก็บเงิน ขอลงที่อำเภอกุยบุรี จากนั้นจ้างเหมารถ เดินทางต่อไปที่ทำการอุทยานแห่งชาติ

อุทยานแห่งชาติกุยบุรี
ตู้ ปณ.10 ปณจ.กุยบุรี  อ. กุยบุรี  จ. ประจวบคีรีขันธ์   77150
โทรศัพท์ 0 3264 6292  0 3264 6292 FREE  (VoIP)  อีเมล kui_np@hotmail.com

 

แผนที่

บทวิจารณ์

Login For Reviews

แสดงความคิดเห็น

หัวข้อ
อ่านรีวิวโดย
วันที่
Tag
Browse Icon ขนาดภาพ 250 x 250 px

Tag

Count :