เลื่อนลงล่าง
กิ่วแม่ปาน
กิ่วแม่ปาน อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ตรง กม.ที่ 42 ของถนนสายจอมทอง-ยอดดอยอินทนนท์ ใกล้กับพระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ เป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะสั้น เป็นวงรอบระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ที่ระดับความสูงประมาณ2,000เมตรจากระดับน้ำทะเลถือเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและ ทะเลหมอกที่สวยงามอีกจุดหนึ่ง ของดอยอินททนท์เส้นทางช่วงแรกผ่านเข้าไปในป่าดิบเขาซึ่งมีบรรยากาศร่มครึ้ม มีแสงแดดส่องลงมาเพียงรำไรตามพื้นป่าเต็มไปด้วย เฟินหลากหลายชนิด มีมอสสีเขียวขึ้นคลุมตามโคนต้นไม้และบริเวณริมห้วยที่ชุมชื้น ทางจะเดินขึ้นเขาจนทะลุออกยังทุ่งหญ้าโล่งกว้างของ สันกิ่วแม่ปานซึ่งมีแสง แดดจ้าและสายลมแรงมาถึงจุดชมวิวสูงสุด ถัดจากจุดชมวิวไปจะเป็นทางเดินเลียบไปตามสันเขาเลียบหน้าผา มีความกว้างประมาณ 1 เมตร ซึ่งจะสามารถเดินได้เพียงคนเดียว จึงเป็นที่มาของชื่อ “กิ่วแม่ปาน” ระหว่างทางจะมีต้นไม้น้อยใหญ่ให้ชม อย่างเพลิดเพลิน
➤ รายละเอียดการท่องเที่ยวกิ่วแม่ปาน
ผู้สนใจต้องติดต่อขอเจ้าหน้าที่นำทางที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวกิ่วแม่ปานตั้งอยู่ตรงเริ่มเดินทาง โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวเริ่มเข้ามา ได้ตั้งแต่ เวลา 6 โมง เช้า คิดค่านำทาง 200 บาท ในส่วนของที่พักสามารถพักค้างคืนยังที่พักใกล้อุทยานแห่งชาติอินทนท์แล้วขึ้นมาที่ จุดชมวิวกิ่วแม่ปานในตอนเข้า ช่วงเวลาที่เหมาะ คือ เดือน ธันวาคม-มกราคม ส่วนในช่วงเดือนมิถุนายน-ตุลาคม เส้นทางนี้ปิดให้บริการ เพื่อ ให้เวลาธรรมชาติฟื้นตัว
อาหารมีหลากหลายเมนูให้เลือก ล้วนแต่น่ารับประทานและรสชาติอร่อยมาก เริ่มจากจานโปรดเป็ดอบกาแฟอร่อยถึงกับต้องสั่งเบิ้ล
หลับใหลไปกับความหนาวใต้ผ้าห่มอุ่น ออกจากที่พักตั้งแต่ตีห้าครึ่ง เพื่อไปยังจุดเริ่มเดินเ้ท้ากิ่วแม่ปาน ก.ม ที่ 42 มาถึงในช่วงหน้าหนาวค่อนข้างคึกคัก มีร้านค้าขายกาแฟ มาม่า เปิดให้บริการ ช่วงเวลาที่เหมาะกับการเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน คือ เดือนธันวาคม-มกราคม ส่วนในช่วงเดือนมิถุนายน-ตุลาคมเส้นทางนี้ปิดให้บริการ เพื่อ ให้เวลาธรรมชาติฟื้นตัว การเดินกิ่วแม่ปานให้ได้อรรถรส อยากเจอบรรยากาศของทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า ควรเริ่มเดินตั้งแต่ 6 โมง เช้า ซึ่งเป็นเวลาที่เปิดให้เข้า แต่ถ้าใครไม่อยากตื่น กลัวหนาว แค่อยากไปชมวิวก็เห็นมีนักท่องเที่ยวเพิ่งเริ่มเดินเข้าไปตอน 8 โมงกว่าก็เยอะ แต่สำหรับฉันเวลานั้นก็ไม่สวยเท่าไปแต่เช้า เพราะแดดเริ่มจ้า หมอกหาย การเดินไปกิ่วแม่ปาน ต้องมาลงชื่อตรงทางเข้ามีคนนำทางไปด้วย 1 คน เสียค่านำทาง 200 บาท ไฟฉายควรเตรียมมาด้วย เส้นทางเดินของฉันจะไม่เหมือนนักท่องเที่ยวคนอื่น เพราะฉันใช้เส้นทางเดินกลับเป็นเส้นทางไป เรียกว่าเดินย้อนศรเพราะตั้งใจไปชมพระอาทิตย์ขึ้นก่อน ที่ จุดชมพระอาทิตย์ขึ้น เดินมาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า เส้นทางนี้ก็ถือว่าเดินมาได้เกือบครึ่งทางแล้ว
มาเที่ยว กิ่วแม่ปาน พักที่ไหนดี การเดินไปยังจุดชมวิวกิ่วแม่ปาน เวลาเช้า คือ ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด การเลือกพักให้ใกล้กับจุดชมวิว ก็น่าจะเป็นอะไรที่สะดวกที่สุด เส้นทางขึ้นไปยังดอยอินทนนท์ มีที่พักหลายแห่ง เช่น โครงการหลวงอินนทนนท์ บ้านแม่กลางหลวง ที่พักของอุทยานฯ ดอยชัวร์ญ่า รีสอร์ท หรืออาจจะนั่งรถมาเช้าที่ดอยอินนทนนท์ก็ยังได้ ฉันเลือกพักที่ โครงการหลวงอินทนนท์ ซึ่งเป็นที่พักที่อยู่ใกล้กับ จุดชมวิวกิ่วแม่ปานที่สุด ข้อมูลกิ่วแม่ปานอย่างละเอียดคลิ๊ก กิ่วแม่ปาน
สำหรับในช่วงฤดูแห่งการท่องเที่ยวหากเราจองที่พักโครงการหลวงได้ทันเป็นอะไรที่ฟินที่สุด เพราะที่พักโครงการหลวงการันตีว่าน่าพัก โดยเฉพาะที่ดอยอ่างข่างและดอยอินทนนท์ บรรยากาศสวยงาม เป็นอย่างมาก ที่พักโครงการหลวงอินทนนท์ ตั้งอยู่ในโซนเดียวกับสวนดอกไม้สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ ที่พักจะแบ่งเป็น 2 โซน คือ โซนแรกอยู่ใกล้กับร้านอาหารและสถานีเกษตรหลวง ซึ่งฉันจองไว้ 2 หลัง เป็นบ้านพักหลังละ 2 คน ราคาหลัง 1500 บาท ราคานี้พร้อมอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ ซึ่งทางโครงการหลวงจัดเต็มมาก หากมาในช่วงเดือนม.ค. ก็จะได้พบกับใบเมเบิ้ลเปลี่ยนสี ซึ่งปลูกอยู่ด้านหน้า
ขับรถวนเข้ามายังที่พักโซนด้านหลังสถานีเกษตรหลวงฯโซนนี้มีต้นพญาเสือโคร่งบานอยู่ด้านหน้า บรรยากาศดีมาก
เดินเข้าไปข้างในจะเป็นที่พักเพิ่งสร้างใหม่ ดีไซน์ออกแนวโมเดิรนหน่อย
หลังนี้คือ ที่พักที่จองไว้อีก 1 หลัง เรียกว่า บ้านแบบญี่ปุ่น ซึ่งใน 1 หลังแบ่งเป็น 2 ห้อง พักได้ห้องละ 4 คน ราคาห้องละ 1200 บาท
บรรยากาศของห้องแรกกว้างขวาง น่านอนมาก ที่นอนเป็นแบบสไตล์ญี่ปุ่นน่ารัก
ห้องน้ำกว้างขวางใหญ่โต
แวะมาสำรวจอีก 1 ห้อง ลักษณะคล้ายๆ กัน
➤ การเดินทางไปกิ่วแม่ปาน
จากตัวเมืองเชียงใหม่ สามารถเดินทางไปยังกิ่วแม่ปานอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ได้3 เส้นทางคือ
เส้นทางที่ 1 จากจังหวัดเชียงใหม่เดินทางโดยใช้เส้นทางถนนสายเชียงใหม่ -ฮอด (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108) ผ่านอำเภอ หางดงและอำเภอสันป่าตอง ไปยังอำเภอจอมทอง ก่อนถึงอำเภอจอมทองประมาณ 2 กิโลเมตร เลี้ยวขวาตามถนนสายจอมทอง- อินทนนท์ (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1009) จะเริ่มเข้าเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ที่กิโลเมตรที่ 8 (น้ำตกแม่กลาง) และ ตัดขึ้นสู่ยอดดอยอินทนนท์เป็นระยะทางทั้งหมด 49.8 กม
เส้นทางที่ 2 จากจังหวัดเชียงใหม่เดินทางตามเส้นทางถนนสานเชียงใหม่-ฮอด (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108) ผ่านอำเภอหางดง อำเภอสันป่าตอง อำเภอจอมทองและอำเภอฮอด จากอำเภอฮอดเดินทางต่อโดยใช้เส้นทางสายฮอด-แม่สะเรียง ฮอด (ทางหลวง แผ่นดินหมายเลข 108) ผ่านอุทยานแห่งชาติออบหลวง แล้วเลี้ยวขวาต่อไปยังอำเภอแม่แจ่มโดยเส้นทางสาย ออบหลวง-แม่แจ่ม (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1088) จากอำเภอแม่แจ่มใช้เส้นทางสายแม่แจ่ม-ดอยอินทนนท์ (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1192) ขึ้นสู่ยอดดอยอินทนนท์ ที่ถนนสายจอมทอง-ดอยอินทนนท์ (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1009 กิโลเมตรที่ 38-39)
เส้นทางที่ 3 ซึ่งเป็นเส้นทางสู่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ที่ค่อนข้างจะลำบาก โดยทางจากจังหวัดเชียงใหม่ตามเส้นทางถนนสาย เชียงใหม่-ฮอด (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108) ผ่านอำเภอหางดง และอำเภอสันป่าตอง จากอำเภอสันป่าตอง เลี้ยวขวา ตามถนน สายสันป่าตอง - บ้านกาด-แม่วิน (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1013) แล้วต่อด้วยเส้นทาง ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1284 หรือ เส้นทาง ร.พ.ช. ผ่านบ้านขุนวาง และขึ้นสู่ถนนสายจอมทอง-ดอยอินทนนท์ (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1009) ที่กิโลเมตรที่ 31 ใกล้ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ
มีบริการรถสองแถวเหลืองไปยังดอยอินทนนท์สายจอมทอง เชียงใหม่ ให้บริการอยู่ที่หน้าประตูเชียงใหม่ เวลาบริการ 08.00-16.00 น. หรือจะเหมารถจากที่นี่ไปอินทนนท์ก็ได้ ราคาไม่ควรเกิน 1,800 บาท / คัน (หากเป็นช่วงปีใหม่ราคาค่ารถจะปรับตัวสูงขึ้น) ใช้เวลาประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง
ฝั่งด้านหลังของประดูเชียงใหม่ห่างออกไปประมาณ 30 เมตร จะเป็นท่ารถเมล์เล็กสีฟ้าที่มีป้ายเขียนว่า เชียงใหม่ -ฮอด - ดอยเต่า รถคันนี้จะผ่านหน้าวัดพระธาตุศรีจอมทองเช่นกัน ใช้เวลาประมาณ 80 นาที รถมีตั้งแต่เวลา 05.00 น. - 18.00 น. รถออกห่างกันคันละประมาณ 15 -20 นาที
เมื่อถึงหน้าวัดพระธาตุศรีจอมทอง ให้ต่อรถจอมทอง -อินทนนท์ ไปลงที่ทำการอุทยานฯ ถ้าหากมาในช่วงเทศกาล หรือฤดูกาลท่องเที่ยว ค่ารถอาจมีการปรับตัวขึ้นอีกเล็กน้อย หรืออาจเหมาทั้งคัน อัตราค่าเหมารถคันละ 1,200 บาท ค่าเหมารถนี้ไม่รวมค่าธรรมเนียมของ อุทยานฯ อีกคนละ 20 บาท
ส่วนรถบัสขนาดใหญ่ ไม่สามารถขับขึ้นไปบนยอดดอยได้ สามารถจอดรถได้ที่วัดน้ำตกแม่กลาง ซึ่งตั้งอยู่ทางซ้ายมือก่อนถึงด่านที่หนึ่ง ประมาณ 50 เมตร ในช่วงเทศกาลคิดอัตราค่าจอดคันละ 50 บาท
เป็นวิวที่อลังการที่สุด และสวยมาก สำหรับภาพถ่ายที่ถ่ายทอดมาอาจได้มาเพียงครึ่ง เพราะสถานที่จริงบรรยากาศสวยกว่านี้มาก เป็นวิวที่กว้างใหญ่สุดตา จนฉันรู้สึกว่าตะลึงอย่างมากกับความสวยงามที่ไม่ได้คาดคิดเพราะความตั้งใจแรกเพียงแค่ต้องการมาชมพระอาทิตย์ขึ้นเท่านั้น
ที่พักเชียงใหม่ ราคาพิเศษมีห้องว่างยืนยันห้องพักทันที : http://www.paiduaykan.com/province/north/chiangmai/hotel.html
Facebook : https://www.facebook.com/paiduaykantravel