เลื่อนลงล่าง
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาขอรับบริการข้อมูลได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ระหว่างเวลา 8.00 – 16.30 น.
กิจกรรม : เดินป่าศึกษาธรรมชาติ ชมพรรณไม้ ดูนก ดูผีเสื้อ
เกิดจากลำห้วยผาขาว – ผาแดง ไหลเลาะลงถ้ำด้านล่าง ความลึกที่สำรวจได้ 100 เมตร มีหินงอกหินย้อยสวยงาม มีลำธารไหลผ่านตลอดทั้งปี อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 32 กิโลเมตร ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางก่อนทุกครั้ง
กิจกรรม : เที่ยวถ้ำ/ธรณีวิทยา ชมพรรณไม้ เดินป่าระยะไกล ดูนก ดูผีเสื้อ
เป็นน้ำตกขนาดกลางที่อยู่ใกล้ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ กว้างประมาณ 8 เมตร สูง 20 เมตร มีน้ำไหลตลอดทั้งปี เดินต่อจากต้นกระบากใหญ่เลียบลำน้ำไปตามเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร จะถึงน้ำตก
กิจกรรม : เดินป่าศึกษาธรรมชาติ เที่ยวน้ำตก ดูนก
เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีน้ำไหลตลอดทั้งปี ความสูงประมาณ 80 เมตร จำนวน 4 ชั้น อยู่ห่างจากจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 24 กิโลเมตร ฤดูกาลที่เหมาะสมแก่การท่องเที่ยวอยู่ระหว่างเดือนตุลาคม – เดือนกุมภาพันธ์ ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง
กิจกรรม : เที่ยวน้ำตก เดินป่าระยะไกล ดูนก ดูผีเสื้อ
เป็นน้ำตกที่เกิดจากลำห้วยผาขาว – ผาแดง กว้างประมาณ 10 เมตร ชั้นสูงที่สุด 30 เมตร มี 2 ชั้น จะมีน้ำไหลจากน้ำตกในช่วงหน้าฝน ส่วนช่วงหน้าแล้งน้ำจะลอดผ่านถ้ำธารลอดแทน ฤดูที่เหมาะสมในการท่องเที่ยวอยู่ระหว่างเดือนตุลาคม – เดือนธันวาคม อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 35 กิโลเมตร ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง
กิจกรรม : เที่ยวน้ำตก เดินป่าระยะไกล ดูนก ดูผีเสื้อ
เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ เกิดจากลำห้วยสามหมื่นหลวง มีความสูงประมาณ 50 เมตร มีน้ำไหลตลอดทั้งปี ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทาง
กิจกรรม : เที่ยวน้ำตก
มีลักษณะเป็นแท่งหินขนาดใหญ่เชื่อมติดกับหน้าผาสองข้างเข้าด้วยกัน คล้ายสะพาน มีความกว้างและความสูงประมาณ 25 เมตร ยาวประมาณ 30 เมตร เบื้องล่างมีลำธารไหลผ่านตลอดทั้งปี สภาพป่าโดยรอบเขียวชะอุ่มร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ ใกล้กับสะพานหินมีถ้ำหินงอกหินย้อยงดงาม สะพานหินธรรมชาติอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ประมาณ 10 กิโลเมตร ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางก่อนเข้าไปเที่ยวชมทุกครั้ง
กิจกรรม : เที่ยวถ้ำ/ธรณีวิทยา เดินป่าระยะไกล ดูนก ดูผีเสื้อ
เส้นทางศึกษาธรรมชาติ อุทยานแห่งชาติได้จัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติไว้ให้บริการนักท่องเที่ยวได้ศึกษาหาความรู้ดังนี้
กิจกรรม : เดินป่าศึกษาธรรมชาติ ชมพรรณไม้ ดูนก ดูผีเสื้อ
อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช ตั้งอยู่ในท้องที่ 2 อำเภอ คือ อำเภอเมืองตาก และอำเภอแม่สอด ติดถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 105 (ตาก–แม่สอด) ห่างจากตัวอำเภอเมืองตากประมาณ 35 กิโลเมตร ซึ่งประกาศทับซ้อนป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ละเมา ตำบลพะวอ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 954 (พ.ศ.2524) และประกาศทับซ้อนป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ท้อ–ห้วยตากฝั่งขวา ตำบลแม่ท้อ อำเภอเมือง จังหวัดตาก ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 145 (พ.ศ.2509) มีพื้นที่ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษาจำนวน 93,125 ไร่ แต่มีพื้นที่จริงจากการคำนวนเท่ากับ 163,750 ไร่
ประวัติความเป็นมา : อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช เดิมมีชื่อว่า “อุทยานแห่งชาติต้นกระบากใหญ่” เนื่องจากมีต้นกระบากที่ใหญ่สุดในประเทศไทยเท่าที่สำรวจพบในขณะนี้ โดยมีนายสวาท ณ น่าน ช่างอันดับ 2 สถานีโทรคมนาคม จังหวัดตาก ซึ่งได้รับการบอกเล่าจากชาวเขาเผ่ามูเซอ ว่ามีต้นไม้ขนาดใหญ่ประมาณสิบคนโอบอยู่ต้นหนึ่ง และมีสะพานหินที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เมื่อได้ไปสำรวจพบเห็นว่าเป็นสภาพธรรม ชาติที่สวยงามควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ จึงได้ทำหนังสือถึงกองอุทยานแห่งชาติ จำนวน 2 ฉบับ ลงวันที่ 15 มิถุนายน 2519 และวันที่ 6 มกราคม 2520 รายงานถึงลักษณะทางธรรมชาติซึ่งมีความโดดเด่น ได้แก่ ต้นกระบากใหญ่ สะพานหินธรรมชาติ น้ำตกห้วยหอย น้ำตกแม่ย่าป้า มีสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีน้ำไหลตลอดทั้งปี และมีสัตว์ป่าที่ชุกชุม
ทางกองอุทยานแห่งชาติจึงได้มีคำสั่งให้ นายสมยศ สุขะพิบูลย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติลานสางในขณะนั้น ออกไปตรวจสอบพบเห็นว่าเป็นจริงดังคำบอกเล่า มีความเหมาะสมที่จะจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติได้ และไปดำเนินการสำรวจเพื่อกำหนดพื้นที่ป่าห้วยแม่ละเมา–ห้วยยะอุ ตำบลพะวอ อำเภอแม่สอด และป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ท้อ–ห้วยตากฝั่งขวา ตำบลแม่ท้อ อำเภอเมืองตาก ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ นำเสนอต่อคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 98 ตอนที่ 210 ลงวันที่ 23 ธันวาคม 2524 กำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็น “อุทยานแห่งชาติต้นกระบากใหญ่” นับเป็นอุทยานแห่งชาติอันดับที่ 40 ของประเทศไทย
ต่อมากองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ พิจารณาเห็นว่า เพื่อเป็นการเทอดพระเกียรติแด่องค์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และเป็นสิริมงคลแก่อุทยานแห่งชาติ ตลอดจนเพื่อเป็นการรำลึกถึงสถานที่อันมีค่าทางประวัติศาสตร์ของชาติไทย ได้แก่ จังหวัดตาก เห็นสมควรเปลี่ยนชื่อ “อุทยานแห่งชาติต้นกระบากใหญ่” เป็น “อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช” กรมป่าไม้จึงได้ดำเนินการกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต เพื่อใช้พระปรมาภิไธยของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเป็นชื่ออุทยานแห่งชาติ และได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตตามหนังสือสำนักราชเลขาธิการ พระบรมมหาราชวัง ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2529 ให้ใช้ชื่อว่า “อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช”
นอกจากความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า และเอกลักษณ์ที่โดดเด่นทางลักษณะภูมิประเทศแล้ว อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราชยังมีเอกลักษณ์ทางประวัติศาสตร์อีกด้วย กล่าวคือ ในสมัยโบราณพื้นที่แห่งนี้เคยเป็นเส้นทางการเดินทัพของขุนสามชน เจ้าเมืองฉอด (อำเภอแม่สอดในปัจจุบัน) เพื่อบุกเข้าตีเมืองตากซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านของไทยในขณะนั้น นอกจากนี้ยังเป็นเส้นทางเดินทัพของพม่า โดยพระเจ้าอลองพญากษัตริย์พม่า คราวยกทัพกลับจากการล้อมกรุงศรีอยุธยาขณะเสด็จกลับระหว่างทางทรงประชวรและสิ้นพระชนม์ในป่าแห่งนี้ 7
ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสูงชันสลับซับซ้อน มีพื้นที่ราบอยู่เพียงเล็กน้อย บริเวณที่ทำการอุทยานฯ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,000 เมตร มีแนวเทือกเขาถนนธงชัยผ่านกลางอุทยานฯ ลักษณะเป็นสันปันน้ำซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตระหว่างอำเภอเมืองตากกับอำเภอแม่สอด เป็นต้นกำเนิดของห้วยสำคัญๆ เช่น ทางด้านอำเภอแม่สอด ได้แก่ ห้วยตะปูเคาะ ห้วยยะอุ ห้วยปลาหลด ห้วยพลูใหญ่ ห้วยผักหละ ห้วยพระเจ้า ห้วยปูแป้ ห้วยผาแกว และห้วยสะมึนหลวง ไหลไปรวมกันเป็นห้วยแม่ละเมา ทางด้านอำเภอเมืองตากมีจำนวน 7 ห้วย ได้แก่ ห้วยปางอ้า ห้วยสลักพระ ห้วยน้ำดิบ ห้วยบง ห้วยช้างไล่ ห้วยโปร่งสัก และห้วยไม้ห้าง ซึ่งไหลลงมารวมเป็นห้วยแม่ท้อ แล้วไหลลงสู่แม่น้ำปิง
อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช มีสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี มีอุณหภูมิเฉลี่ย 27 องศาเชลเชียล อุณหภูมิสูงสุด 36.2 องศาเชลเชียล อุณหภูมิต่ำ 7.5 องศาเชลเชียล มีฝนตกชุกในเดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคม ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 15.23 มม./ปี ช่วงฤดูหนาวระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมกราคม สามารถพบเห็นทะเลหมอกตลอดแนวเขาทั่วไปในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว
สภาพป่าประกอบไปด้วย ป่าดงดิบ ส่วนใหญ่อยู่บริเวณต้นกระบากใหญ่ และสะพานหินธรรมชาติ มีพันธุ์ไม้หลักที่สำคัญคือ ก่อ ยาง กระบาก มะหาด ยมหอม อบเชย กฤษณา มณฑา เป็นต้น ป่าดิบเขาอยู่บริเวณใกล้สันปันน้ำ มีพันธุ์ไม้ที่สำคัญคือ ก่อ ยาง แดงน้ำ และไม้เนื้ออ่อนชนิดต่างๆ ป่าเต็งรังและ ป่าเบญจพรรณ จะมีอยู่ทั่วไป มีพันธุ์ไม้ที่สำคัญคือ เต็ง รัง เหียง สัก พลวง ตะแบก ประดู่ มะค่าโมง มะค่าแต้ ยมหิน แดง เก็ดแดง ฯลฯ และไม้ไผ่ชนิดต่างๆ
สำหรับสัตว์ป่าที่สำรวจพบมีหลายชนิด อาทิเช่น เก้ง กวางป่า เลียงผา หมี ลิง ค่าง หมูป่า ชะนี กระต่าย งู กระรอก ผีเสื้อ ไก่ป่า เสือไฟ เสือลายเมฆ และนกชนิดต่างๆ ฯลฯ ซึ่งในอุทยานจะมีหมีควายที่ชื่อ ธันวา อยู่ด้วย
ชื่อบ้านพัก | ห้องพัก/ห้องน้ำ | จำนวนคน | บาท/คืน/หลัง | สิ่งอำนวยความสะดวก | |
1 | บ้านอโนทัย | 4/2 | 10 | 2,000 | มีเครื่องนอน |
2 | บ้านทิวสน 1 | 2/2 | 6 | 1,200 | มีเตียง 1 เตียง, เครื่องนอน |
3 | บ้านทิวสน 2 | 2/2 | 6 | 1,200 | มีเครื่องนอน |
4 | บ้านเรือนแถวพิงดอย 1,2,3,4 | 4/4 | 5 คน/ห้อง | 1,000 บาท/ห้อง | มีเตียง 3 ที่, เครื่องนอน |
5 | บ้านพิงดาว | 2/1 | 8 | 1,200 | มีเครื่องนอน |
6 | ค่ายพักเยาวชน 1 | 1/4 | 20 | 1,000 | มีเครื่องนอน |
7 | ค่ายพักเยาวชน 2 | 1/4 | 20 | 1,000 | มีเครื่องนอน |