เลื่อนลงล่าง

ภูสอยดาว...สหายและสายหมอก

04/05/59

Share

ทริปนี้เกิดจากคำพูดของเพื่อนคนหนึ่ง ว่า “อยากไปต้องได้ไป” พวกเราจบมาจากโรงเรียนเดียวกัน แต่ละคนก็แยกย้ายกันไปเรียน บ้างก็จบและได้งานทำแล้ว หลังจากที่มีการนัดกันหาวันว่างที่ตรงกัน ทุกคนตกลงกันว่า จะไป ไปกันจริงๆ  ก็เตรียมตัวฟิตร่างกายกันให้พร้อม เพราะ ทริปนี้นี้เป็นครั้งแรกของพวกเรา ที่จะได้เดินป่าในระยะประมาณ6.5กิโลกเมตร

เรานัดเจอกันพร้อมกันทั้ง 6 คน เวลาประมาณ 16.00 น. ที่ ม.นเรศวร จ.พิษณุโลก แล้วมุ่งหน้าสู่ อ.ชาติตระการ แวะพักที่บ้านพี่สาว 1 คืน เพื่อเตรียมแพ็คกระเป๋า จัดแบ่งสัมภาระต่างๆ เราเริ่มออกจากที่พักตั้งแต่เช้า เพื่อไปซื้อของสด เตรียม อาหารมื้อเช้า และ มื้อเที่ยง ที่ตลาดสดเทศบาลตำบลป่าแดง  แล้วก็มุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1237 ไปบรรจบกับเส้นทางแผ่นดินหมายเลข 1268 ถึงอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ใช้เวลาประมาณ เกือบ 2 ชั่วโมง

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มียอดสูงสุดของภูสอยดาวสูง จากระดับน้ำทะเล 2,102 เมตร ซึ่งสูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย จุดเด่นที่น่าสนใจและเป็นที่ดึงดูดใจของนักท่องเที่ยว คือ การได้ชมทุ่งดอกไม้สีม่วงที่เรียกว่า"ดอกหงอนนาค" และดอกไม้หลากสีสันสลับให้เห็นอยู่ทั่วลานสน ซึ่งจะบานในช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือน ส.ค. - ก.ย ของทุกปี

หลังจากที่มาถึงอุทยาน เราก็เข้าไปติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อเสียค่าเข้าอุทยาน  พวกเรานำเต็นท์มาเอง1หลัง และ เช่าของอุทยาน อีก 1หลัง พร้อมเครื่องนอน ซึ่ง จะมีของอยู่ด้านบนแล้ว เราแบกของกันเองเลยไม่มีการจ้างลูกหาบ แล้วก็มีการเสียค่ามัดจำขยะ ซึ่งขาลงเราต้องนำขยะลงมาทิ้งด้วย หลังจากนั้นก็รอคิว รถอิแต๋น เพื่อพาพวกเราไปยังจุดเริ่มต้นทางเดินเท้า

เริ่มเดินกัน จาก น้ำตกภูสอยดาว ก็ดูเหมือนเป็นการอุ่นเครื่องสบายๆ อีก 1.5 กิโลเมตร จะถึงเนินแรก พวกเราก็แอบมีพักกันบ้างแล้ว มันเริ่มไม่ง่ายล่ะสิ ระหว่าง ลูกหาบก็แบกของขึ้นพร้อมๆกับพวกเราแต่หนักประมาณเกือบ30กิโลกรัมได้ ถึงเนิน ชื่อของเนินแรก เห็นละก็ตกใจ ชื่อว่า “เนินส่งญาติ” ณ ตอนนี้ กลับตัวก็ไม่ได้แล้ว เราต้องเดินต่อ อีก 4 กิโลเมตร พักกันหายเหนื่อยแล้วเริ่มเดินต่อ จากตอนแรกเดินมาพร้อมกัน 6 คน ตอนนี้ เพื่อน3คน ได้เดินนำเราไป และอีก 2คน ทิ้งท้ายไว้ไกลมาก กลายเป็นว่า “เราต้องเดินป่าคนเดียวสินะ” 

ทางเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ มีทั้งบันไดและทางเท้าสลับการไป เดินต่อไป จนถึงเนินปราบเซียน เนินป่าก่อ ต่อไปก็เป็นเนินเสือโคร่ง ระหว่างทางก็จะมีจุดพักเหนื่อยให้ เป็นขอนไม้ โขดหิน แค่นั้น วันที่เราขึ้นเป็นวันเสาร์ เลยมีนักท่องเที่ยวทยอยกันเดินขึ้นไม่ขาด มองดูเวลา เดินมาแล้ว4ชั่วโมง ก็เริ่มมองเห็น เนินมรณะอยู่ไกลๆ  หลังจากนั้นฝนก็เริ่มตกลงมาปรอยๆ พอจะขึ้นเนินมรณะ ซึ่งค่อนข้างจะชันเป็นพิเศษ ฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก ทำอะไรก็ไม่ได้แล้ว รีบคลุมกระเป๋า แล้วเดินลุยไปพร้อมกับสายฝน  ความเหนื่อย ความร้อน กลายเป็นความเย็นสบายเข้ามาแทนที่

และแล้วเราก็เดินมาถึงป้าย  “ ผู้พิชิตลานสนภูสอยดาว ระดับความสูง 1,633 จากระดับน้ำทะเล” รวมระยะเวลา ขาขึ้น 5ชั่วโมงครึ่ง (รูปขาลง)

เดินหาเต็นท์ ซึ่งเพื่อนได้มาถึงก่อน1ชั่วโมงก่อนหน้านี้ จัดการไปรับของจากอุทยาน แบ่งหน้าที่กัน ไปตักน้ำมาใช้ และเริ่มก่อไฟ เพื่อจะทำมื้อเย็นกัน 

ก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดินพวกเราก็เลยเดินจากจุดกางเต็นท์ ไปเก็บภาพบรรยากาศ ยามเย็นมาเล็กน้อย คิดในใจถ้าไม่ได้มาเห็นกับตา ถ้าไม่ตอบตกลงเพื่อน ก็คงไม่ได้มาสัมผัสบรรยากาศแบบนี้

 

สวัสดีตอนเช้า... ข้างนอกเต็นท์เต็มไปด้วยหมอกหนา แต่ก็แปลกใจที่ไม่หนาวเลย เราสามารถอยู่ท่ามกลางสายหมอกเหมือนจะได้กลืนกินมันเข้าไป 

ซึ่งอย่างแรกที่ควรจะทำก็คือการก่อไฟ เพราะไฟจะติดช้ามากเนื่องจากถ่านเปียกหมอกไปแล้วนั่นเอง 

และแล้วก็ได้มื้อเช้าที่แสนง่ายของพวกเรา จากการแค่ต้มน้ำร้อน ให้พอรองท้องได้ ครึ่งเช้านี้.....

หลังจากนั้นก็ใช้เวลาเดินเล่นบนลานสนที่แสนจะกว้างใหญ่มาก เก็บภาพไปเรื่อยๆ จนมาบรรจบที่หลัก กิโลเมตร แบ่งเขตแดน ไทย-ลาว 

แล้วก็รีบกลับมาเก็บของ ส่งของคืนอุทยาน และก็ไม่ลืมเก็บขยะ และนำลงมาด้วย พวกเราเดินลงจากลานสนใช้เวลาประมาณ 3ชั่วโมงครึ่ง  เท้าระบบกันเลยทีเดียว

ภูสอยดาวมีอะไรมากกว่าที่พูด ที่เขียน ที่เห็นในภาพถ่าย ภาพอาจจะเก็บบรรยากาศมาได้ไม่หมด

ทำให้เรารู้สึกภูมิใจที่เมืองไทยมีที่เที่ยวที่สวยๆแบบนี้ 

การได้ลองพิชิตใจตัวเองเดินป่าครั้งแรก ถือว่าเราได้อะไรกลับไปเยอะมาก  อย่างน้อยเราก็รู้จักตัวเองมากขึ้น  เป็นครั้งแรกที่เหนื่อยที่สุด แต่ก็ภูมิใจในร่างกายและแรงสู้ของตัวเองที่สุดเหมือนกัน

ขอบคุณ...สหาย  ที่ร่วมเดินทางไปด้วยกัน

ขอบคุณ...ตัวเองที่นำพามาที่แห่งนี้ “ภูสอยดาว”

 

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด ท้องที่ตำบลม่วงเจ็ดต้น ตำบลนาขุม ตำบลบ้านโคก อำเภอบ้านโคก ตำบลห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ตำบลบ่อภาค อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลกเป็นพื้นที่ที่มีสภาพป่าค่อนข้างสมบูรณ์ปกคลุมไปด้วยป่าธรรมชาติที่สวยงาม เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร ยอดสูงสุดของภูสอยดาวสูงจากระดับน้ำทะเล 2,102 เมตร ซึ่งสูงเป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย อุทยานแห่งนี้มีจุดเด่นที่น่าสนใจและเป็นที่ดึงดูดใจของนักท่องเที่ยว ได้แก่ น้ำตกภูสอยดาว เป็นน้ำตก 5 ชั้น และการผจญภัยขึ้นสู่ลานสนสามใบอันสวยงาม มีเนื้อที่กว้างประมาณ 1,000 ไร่ มีความสวยงามมาก มีถนนลาดยาง เข้าถึงพื้นที่ทำให้สะดวกสบายในการเดินทางพักผ่อนหย่อนใจ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวมีเนื้อที่ 125,110 ไร่ หรือ 200.18 ตารางกิโลเมตร

 

สิ่งอำนวยความสะดวกบนอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว

  • ที่จอดรถ: มีที่จอดรถให้บริการแก่นักท่องเที่ยว

  • บริการอาหาร: มีร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยว เฉพาะทางขึ้นภู

  • ลานกางเต๊นท์: อุทยาน แห่งชาติจัดเตรียมเต็นท์และสถาน ที่กางเต็นท์ ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว การสำรองที่พักเต็นท์สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดและสำรองที่พักเต็นท์ได้ กับอุทยานแห่งชาติโดยตรง

  • ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว: มีศูนย์ บริการนักท่องเที่ยว ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาขอรับบริการข้อมูลได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ระหว่างเวลา 8.00 - 16.30 น.

  • สุขาชาย-หญิง และ ห้องอาบน้ำ

ที่พักของกรมอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว http://dnp.go.th/parkreserve/asp/style1/accommodation.asp

การเดินทางด้วยรถยนต์สามารถไปได้ 2 เส้นทางคือ

  • โดยรถยนต์ จากจังหวัดพิษณุโลก ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 แล้วแยกเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1246 ถึงบ้านแพะแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 1143 ผ่านอำเภอชาติตระการ แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 1237 ผ่านบ้านบ่อภาคไปบรรจบกับเส้นทางแผ่นดินหมายเลข 1268 ถึงน้ำตกภูสอยดาว อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว รวมระยะทางประมาณ 188กิโลเมตร

  • สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ ระยะทางประมาณ 133 กม. โดยใช้เส้นทาง อุตรดิตถ์-น้ำปาด (ทางหลวงหมายเลข 1047) ออกจากจังหวัดอุตรดิตถ์ พอถึง อ.น้ำปาดให้เลี้ยวรถเข้าไปใช้ ทางหลวงจังหวัด หมายเลข 1239 แล้วขับรถไปอีกประมาณ 46 กม. แล้วจึงเลี้ยวรถเข้าไปใช้ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1268 ขับรถไปประมาณ 19 กิโลเมตรก็จะถึง อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว

1. ปฏิบัติตนตามกฏระเบียบของทางอุทยานฯ ที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด

2. ดูแลรักษาสภาพธรรมชาติให้คงความงดงามตามธรรมชาติมากที่สุด

3. ควรเคารพสิทธิ์ผู้อื่นในการเข้าไปใช้พื้นที่ธรรมชาติร่วมกัน

4. ไม่ส่งเสียงดัง อันจะเป็นการรบกวนผู้อื่นหรือรบกวนความเป็นอยู่ของสัตว์ป่า

5. การเดินป่าศึกษาธรรมชาติควรเดินตามเส้นทางที่กำหนดไว้ ไม่ควรเดินออกนอกเส้นทางเดินถาวร ซึ่งอาจจะไปเหยียบย่ำพืชพรรณหรือสัตว์เล็กๆ

6. ห้ามเก็บ หรือนำออก หรือกระทำการใด ๆ ที่จะเป็นอันตรายต่อสภาพของก้อนหิน พืชพรรณ และสัตว์ป่า ในเขตอุทยานฯ

7. ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าไปในเขตอุทยานฯ เพราะอาจจะเป็นการนำโรคเข้าไปแพร่ในธรรมชาติหรือในทางตรงกันข้าม ก็อาจจะรับโรคติดต่อจากสัตว์ป่าภายในออกมา

8. ไม่ควรก่อไฟในอุทยานฯ เพราะการก่อไฟจำเป็นจะต้องใช้ฟืนในธรรมชาติและก่อเกิดมลพิษ ปัจจุบันมีเตาน้ำมัน เตาแก๊สสารพัดประโยชน์ขนาดพกพา สามารถใช้การได้ดีและไม่ทำลายธรรมชาติ หรือหากจำเป็นต้องก่อกองไฟจริง ๆ ควรก่อในที่ที่ทางอุทยานฯ กำหนด และดับให้เรียบร้อย

9. ไม่ควรนำสิ่งที่จะก่อให้เกิดขยะเข้าไปในอุทยานฯ เช่น ถุงพลาสติก กล่องโฟม ขวด กระป๋อง หากนำเข้าไปกรุณาเก็บคืนออกมาให้มากที่สุด

10. เมื่อพบเห็นการกระทำผิดกฏระเบียบอุทยานฯ หรือการกระทำอันเป็นผลกระทบต่อธรรมชาติ กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เพื่อดำเนินต่อไป

11. ไม่ควรน้ำสุราและของมึนเมาไปดื่มในอุทยานฯ เพราะถือเป็นความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาทะเลาะวิวาทได้

12. ร่วมกันสอดส่องดูแล หรือชักชวนให้เพื่อนฝูง หรือเพื่อนร่วมทาง ช่วยกันดูเลรักษาธรรมชาติ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก :  thai-tour.com  ,   เรียบเรียงโดย : Travel MThai

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
ต.ห้วยมุ่น  อ. น้ำปาด  จ. อุตรดิตถ์   53110
โทรศัพท์ 0 5543 6001-2   อีเมล์ phusoidao07@hotmail.com

แผนที่

บทวิจารณ์

Login For Reviews

แสดงความคิดเห็น

หัวข้อ
อ่านรีวิวโดย
วันที่
Tag
Browse Icon ขนาดภาพ 250 x 250 px