เลื่อนลงล่าง

ภูกระดึง

โดย. Saranya Suthi

13/05/59

Share

การเดินขึ้นภูกระดึงไม่ลำบากมากนัก แต่ระยะทางจะไกลและชัน แต่ระหว่างทางจะมีจุดให้แวะพักเหนื่อยต่างๆ ตามลำดับ ได้แก่ ปางกกค่า ซำแฮก ซำบอน ซำกกกอก พร่านพรานแป ซำกกหว้า ซำกกโดน และซำแคร่ หากเดินขึ้นภูตั้งแต่เช้า อากาศจะค่อนข้างเย็นสบาย มีสิ่งที่น่าสนใจให้ชมไปตลอดทาง โดยเฉพาะสภาพทางธรณีและสภาพป่าที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นระยะๆ จากป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง ป่าดิบเขา จนถึงหลังแป จากหลังแปถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวางจะเป็นทางราบท่ามกลางทุ่งหญ้าป่าสนเขาอันกว้างใหญ่ รวมระยะทางจากทางขึ้นไปถึงหลังแปและศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง ประมาณ 9 กิโลเมตร แหล่งท่องเที่ยวบนภูกระดึงส่วนใหญ่มีทางเดินชมธรรมชาติติดต่อถึงกันหมด ฉะนั้น ผู้ที่จะไปท่องเที่ยวบนภูกระดึงควรใช้เวลาอย่างน้อย 3 วัน เพื่อจะได้เที่ยวชมธรรมชาติที่สวยงามเหล่านั้นได้ทั่วถึง อุทยานแห่งชาติภูกระดึงเปิดให้ท่องเที่ยวบนยอดภูกระดึงเฉพาะในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤษภาคม

การเดินทางขึ้นไปชมความงามบนยอดภูกระดึง ทางอุทยานแห่งชาติอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นได้ตั้งแต่เวลา 07.00 - 14.00 น. ของทุกวัน และหลังจากเวลา 14.00 น.เป็นต้นไปทางอุทยานแห่งชาติจะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นไปชมความงามบนยอดภูกระดึง เนื่องจากระยะทางในการเดินทางขึ้นเขาประมาณ 9 กิโลเมตร และมีความลาดชันในบางช่วง การเดินทางต้องใช้เวลาในการเดินเท้า ประมาณ 4-5 ชั่วโมง ซึ่งจะตรงกับเวลาพลบค่ำในระหว่างทางเกิดความยากลำบากในการเดินทาง อีกทั้งอาจได้รับอันตรายจากสัตว์ป่าที่ออกหากินในเวลากลางคืน

นอกจากความสวยงามทางธรรมชาติบนภูกระดึงแล้ว พื้นที่ด้านล่างบริเวณเชิงเขาด้านทิศใต้ของภูกระดึงบริเวณพื้นที่รับผิดชอบของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ลย.3 (นาน้อย) ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวตามลำน้ำพองซึ่งประกอบด้วย น้ำตก แก่งหิน พันธุ์พืชที่น่าศึกษาแล้ว เป็นสถานที่พักผ่อนอยู่มากมาย นอกจากนี้ยังคงมีร่องรอยประวัติศาสตร์ของขบวนการเสรีไทย ตลอดทั้งภาพเขียนสีปรากฏบนผนังหินที่มีอายุหลายพันปี ซึ่งสามารถเดินทางจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติไปตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2019 ย้อนกลับไปทางอำเภอภูกระดึงประมาณ 1.5 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาไปตามเส้นทาง รพช. จากบ้านหนองอิเลิง ถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ลย.3 (นาน้อย) จากนั้นเดินทางไปตามเส้นทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ 

บนยอดภูกระดึงมีการค้าบริการ นักท่องเที่ยว

 

เต็นท์ - ด้านบนยอดภูกระดึง, อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
 

มีเต็นท์และเครื่องนอนเต็นท์ให้บริการนักท่องเที่ยว สามารถติดต่อจองเต็นท์/พื้นที่กางเต็นท์ของอุทยานแห่งชาติทางอุทยานแห่งชาติได้ทางเว็บไซต์ www.dnp.go.th แล้วชำระเงินผ่านธนาคารกรุงไทยเท่านั้น แล้วในวันที่เข้าพักต้องนำหลังฐานการชำระเงินมายื่นที่เคาเตอร์งานบ้านพัก บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เต็นท์ (ราคาเฉพาะเต็นท์อย่างเดียวไม่รวมเครื่องนอน)
- เต็นท์โดมเล็ก มีบริการ 570 หลัง พักได้เต็นท์ละ 3 คน ราคา 225 บาท/คืน
เครื่องนอนเต็นท์
1. ถุงนอน มีบริการ 750 ถุง ราคาถุงละ 30 บาท/คืน 
2. ที่รองนอน มีบริการ 640 ผืน ราคาผืนละ 20 บาท/คืน
3. หมอน มีบริการ 718 ใบ ราคาใบละ 10 บาท/คืน

หมายเหตุ
1. กรณีนำเต็นท์ไปเองหรือเช่าเต็นท์ของเอกชน ต้องเสียค่าบริการสถานที่กางเต็นท์ คนละ 30 บาท/คน/คืน
2. กรณีเกิดความเสียหายผู้เช่าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด

 

ที่พักแรม/บ้านพัก - ด้านบนยอดภูกระดึง, อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
 

บ้านภูกระดึง 105 หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า บ้านอัมพวา มีขนาด 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พักได้ 8 คน มีเครื่องนอน, เครื่องทำน้ำอุ่น ราคา 2,400 บาท/คืน

บ้านภูกระดึง 105 หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า บ้านอัมพวา มีขนาด 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พักได้ 8 คน มีเครื่องนอน, เครื่องทำน้ำอุ่น ราคา 2,400 บาท/คืน

บ้านภูกระดึง 110 หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า บ้านเทียนน้ำ เป็นบ้านเรือนแถว มีขนาด 5 ห้องนอน ห้องน้ำรวม มีเครื่องนอน ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น พักได้ 6 คน/ห้อง ราคา 900 บาท/คืน/ห้อง

 

รถโดยสารประจำทาง
         โดยสารรถยนต์จากสถานีขนส่งสายเหนือ (หมอชิต) กรุงเทพมหานคร ไปลงที่ผานกเค้าซึ่งเป็นเขตต่อแดนระหว่างชุมแพ-ภูกระดึง แล้วโดยสารรถประจำทาง (รถสองแถว)ไปลงที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูกระดึงจากนั้นก็เดินต่อขึ้นไปยอดภูกระดึง ควรใช้รถประจำทางหรือหากนักท่องเที่ยวใช้รถประจำทางเส้นทางกรุงเทพฯ-ขอนแก่น ลงที่ชุมแพและต่อรถสายขอนแก่น-เลย ไปลงที่ตลาดอำเภอภูกระดึงซึ่งจะมีรถสองแถวต่อถึงไปอุทยาน

         ป.ล.รถสองแถวแดงที่รับจ้างนำนักท่องเที่ยวส่งระหว่างจุดจอดรถที่ผานกเค้ามาที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูกระดึง คำแนะนำคือถ้าเรามาไม่กี่คนให้รวมทีมกับกรุ๊ปอื่นจะได้เฉลี่ยค่าสองแถวไม่ต้องเหมารถให้เปลืองสตางค์

รถไฟ
         จากกรุงเทพมหานครโดยสารรถไฟไปลงที่ขอนแก่น จากนั้นโดยสารรถประจำทางสายขอนแก่น-เลยไปยังหน้าตลาดที่ว่าการอำเภอภูกระดึง แล้วต่อรถสองแถวหรือเดินทางต่อไปอีกประมาณ 5 กิโลเมตรก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูกระดึงซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นปีนเขาขึ้นยอดภู จากนั้นต้องเดินเท้าขึ้นยอดภูอีก 5กิโลเมตร จึงจะถึง “หลังแป” แล้วเดินเท้าไปตามทุ่งหญ้าอีก 4 กิโลเมตรก็จะถึงที่พัก บนยอดภูกระดึงทางอุทยาน ได้จัดลูกหาบสัมภาระของนักท่องเที่ยวขึ้นไปบนยอดภูกระดึงคิดค่าบริการเป็นกิโลกรัม

รถส่วนตัว 

       1.เดินทางผ่านจังหวัดสระบุรี เพชรบูรณ์ อำเภอหล่มสัก หล่มเก่า ด่านซ้ายภูเรือ และอำเภอเมืองเลย เลี้ยวเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201(เลย-ขอนแก่น) และเลี้ยวเข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2019เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง  

      2.ใช้เส้นทางผ่านจังหวัดสระบุรี นครราชสีมาจนถึงจังหวัดขอนแก่น เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201ผ่านอำเภอภูผาม่านและตำบลผานกเค้า เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง  

       3.เดินทางผ่านจังหวัดสระบุรี อำเภอปากช่อง เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 ผ่านจังหวัดชัยภูมิ อำเภอภูเขียวแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 ผ่านอำเภอชุมแพจากนั้นเดินทางเช่นเดียวกับเส้นทางที่ 2

1. ควรใส่รองเท้าหุ้มสันในการเดินทาง

2. ตอนกลางคืนไม่ควรออกมาเดินเล่นนอกที่พัก เพราะอาจจะเจอสัตว์ที่เป็นอันตรายได้

ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว - ด้านบนยอดภูกระดึง, อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
 
มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว บนยอดภูกระดึง ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาขอรับบริการข้อมูลได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ระหว่างเวลา 8.00 - 16.30 น. ด้านหลังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวมีอาคารรับสัมภาระ (สัมภาระที่ผู้ใช้บริการจ้างแบกหามขึ้นภูกระดึง) ห้องน้ำ ห้องสุขา และศาลานั่งพักผ่อน

แผนที่

บทวิจารณ์

Login For Reviews

แสดงความคิดเห็น

หัวข้อ
อ่านรีวิวโดย
วันที่
Tag
Browse Icon ขนาดภาพ 250 x 250 px