อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี(เขาวัง)

ถ้านึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติควบคู่ประวัติศาสตร์ไทย ต้องนึกถึง  “อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี” หรือชาวเพชรบุรีเรียกสั้นๆ "เขาวัง" ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของเพชรบุรีเลยก็ว่าได้ ดังคำขวัญจังหวัดเพชรบุรีว่า เขาวังคู่บ้าน ขนมหวานเมืองพระ เลิศล้ำศิลปะ แดนธรรมะทะเลงาม เดิมทีแล้วเขาวังเมื่อก่อนชาวเมืองเพชรรู้จักกันในชื่อ  “เขาสมน” (สะหมน) หรือสมณ (อ่านว่า สะ-มะ-นะ) ซึ่งเป็นชื่อของวัดที่ตั้งอยู่เชิงเขา คือวัดสมณะ (ปัจจุบันคือวัดมหาสมณารามราชวรวิหาร หรือ วัดเขาวัง)  ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเคยเสด็จมาประทับเมื่อครั้งยังทรงผนวชอยู่ เขาลูกนี้มียอดเขาอยู่ทั้งหมดสามยอดติดต่อกัน ยอดสูงที่สุดสูง 95 เมตร ทั้งหมดมีพื้นที่ประมาณ 600 ไร่  ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ รัชกาลที่ 4 ทรงพอพระราชหฤทัยที่จะสร้างพระราชวังสำหรับเสด็จแปรพระราชฐาน ณ สถานที่แห่งนี้ จึงโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค)เป็นแม่กองในการก่อสร้างในปี พ.ศ.2402 และก่อสร้างแล้วเสร็จในปีพ.ศ. 2403 ทรงพระราชทานนามว่า “พระนครคีรี” โดยเป็นพระราชวังฤดูร้อน อาคารทั้งหมดที่ก่อสร้างเป็นการผสมผสานกันระหว่างสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบนีโอคลาส และ สถาปัตยกรรมจีน 

สมัยก่อนนั้นจะขึ้นลงเที่ยวชมเขาวังนั้นต้องอาศัยการเดินเท้านับขั้นบันไดแข่งกันได้เลย แต่สมัยนี้มี Cable Car เพื่อใช้โดยสารขึ้นไปบนเขาได้สะดวกขึ้น คนอายุมากก้เที่ยวชมเเบบไม่ต้องกังวลเรื่องสุขภาพร่างกายทีเดียว มีอัตราค่าบริการสำหรับขึ้นรถรางไฟฟ้าสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ และอัตราค่าบริการสำหรับชาวต่างชาติครับ

บริเวณลานจอดรถ ก็จะเป็นร้านขายของที่ระลึก ร้านขายเสื้อผ้า ของไทยๆ และร้านอาหาร ที่เด็ดสุดร้านขายขนมหานเมืองเพชร เช่น ขนมหม้อแกง ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง หวานหยดย้อยกันทั่วหน้าเลยครับ อร่อยสุดๆ สมกับเป็นเมืองขนมหวานจริงๆครับ  ทุกวันเสาร์จะมีสาธิตการสอนงานช่างเมืองเพชร เช่น สอนทำพวงมโหตร ฉลุกระดาษ

ถึงช่วงนั่งรถรางนะครับ ถ้าคนกลัวความสูงอาจจะรู้สึกหวาดเสียวบ้าง แต่นั่งไปแล้วปลอดภัยแน่นอนครับ บางท่านอาจจะรู้สึกสนุกเหมือนได้นั่งเครื่องเล่นในดรีมเวิลด์ก้เป็นได้ครับ มีกฏระเบียบ และมีพนักงานคอยดูแลอยู่ครับ  ระหว่างทางรถแล่นขึ้นสู่ยอดเขา จะเห็นพรรณไม้หลายชนิดรอบๆทางขึ้นครับ

พอขึ้นมาถึงกลางเขา จุดที่รถรางจอดส่งนักท่องเที่ยว จะมีแผนผังเส้นทางและข้อมูลประวัติความเป็นมาของพระนครคีรีครับ อธิบายให้นักท่องเที่ยวอย่างผมและคนอื่นๆก่อนขึ้นไปชมสถานที่งดงามกับตาจริงๆครับ ​

และที่สำคัญขาดไม่ได้คือ จะเห็น"เจ้าวานร"หรือชาวเพชรบุรีจะเรียกว่า ลิงเขาวังครับเป็นจำนวนมากพร้อมทักทายการมาเยือนของนักท่องเที่ยว แต่นักท่องเที่ยวอย่างเราอย่าได้ประมาทเจ้าแสนซนพวกนีนะ คอยระมัดระวังกระเป๋าของท่านดีๆ ยิ่งน้ำดื่ม อาหาร ขนม เป็นสิ่งที่ลิงเขาวังโปรดปรานมาก ควรรีบรับประทานแล้วทิ้งตามถังขยะที่มีตั้งทุกจุดก่อนไปเที่ยวชมอย่างแบบสบายใจ แต่ถ้าจะซื้อน้ำดื่ม ขนมแจกเจ้าจ๋อพวกนี้ ก็ถือว่าเป็นน้ำใจต่อสรรพสัตว์ เพื่อนร่วมโลก 

ด้านบนเป็นพระที่นั่งเพชรภูมิไพโรจน์ พระที่นั่งองค์ใหญ่ เป็นประธานของหมู่พระที่นั่งต่างๆ สถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างไทยจีนและยุโรป รัชกาลที่ 4 ให้จัดเป็นที่รับรองแขกเมือง มีห้องโถงออกขุนนาง ห้องเสวยพระกระยาหาร ห้องทรงพระสำราญ ห้องพระสุธารส ห้องสรง ห้องแต่งพระองค์ และห้องบรรทม ในปัจจุบันได้ปรับปรุงและจัดตั้งให้เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครคีรี     เราสามารถเดินชมด้านในห้องต่างๆได้ตามที่เขากำหนด แต่ห้ามถ่ายรูปเด็ดขาด มีป้ายติดไว้ และจะต้องถอดรองเท้าหิ้วไปด้วย เพราะว่าเดี๋ยวเราจะไปออกทางด้านหลัง  ไม่เดินย้อนกลับมาทางนี้

พระที่นั่งเวชยันต์วิเชียรปราสาท   พระที่นั่งนี้เป็นปราสาทจตุรมุข ยอดปรางค์ 5 ยอด ตามพระราชนิยมในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มียอดปรางค์ใหญ่อยู่กลาง และปรางค์เล็กอยู่ 4 มุม บนฐานสูงซ้อนกัน 3 ชั้น มีระเบียงแก้วโดยรอบแต่ละชั้น ระเบียงชั้นบนสุดมีโดมโปร่งที่มุมทั้งสี่ ตัวปราสาทประดับลายปูนปั้น ภายในประดิษฐานพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หล่อด้วยสำริด ทรงฉลองพระองค์แบบตามพระราชนิยม ทรงพระมาลาสก๊อต พระหัตถ์ขวาทรงพระแสงดาบ พระหัตถ์ซ้ายทรงสมุดหนังสือ ทรงยืนใต้นพปฎลเศวตฉัตร จากพระที่นั่งองค์นี้มีประตูออกไปสู่ พระที่นั่งราชธรรมสภา (ห้ามถ่ายรูป) แต่สามารถเข้าไปกราบ สักการะได้ครับ 

เส้นทางไปหอชัลวาลเวียงชัย หรือหอดุดาวนะครับ ผ่านพระที่นั่งราชธรรมสภา
 เป็นอาคารชั้นเดียว ศิลปะผสมระหว่างศิลปะยุโรป จีน และไทย หลังคาเป็นแบบเก๋งจีนในรัชกาลที่ 4 ทรงใช้เป็นที่ประชุมส่วนพระองค์บรรยายธรรมะถึงสมัยรัชกาลที่ 5 ดัดแปลงเป็นห้องเสวยสำหรับพระบรมวงศานุวงศ์ที่ตามเสด็จ ในปัจจุบันใช้เป็นอาคารแสดงนิทรรศการต่างๆ ได้รับความรู้มากขึ้น  จุดเด่นจะอยู่ตรงประตูบ้านโค้งสีเขียว ตัดกับผนังสีขาวที่มีลายปูนปั้นสวยงาม 

ชมนิทรรศการแล้ว ออกมาจะพบหอชัชวาลเวียงชัย ลักษณะเป็นหอทรงกลมสูงคล้ายกระโจมไฟ มีบันได้เวียนสำหรับเดินขึ้น-ลง ชั้นบนรอบนอกเป็นระเบียงซึ่งประดับด้วยลูกกรงแก้วกระเบื้องเคลือบสีเขียวจากประเทศจีน หลังคาเป็นรูปโดมมุงด้วยกระจกโค้งภายในมีโคมไฟห้อย ซึ่งกลางคืนจะมองเห็นแสงไฟไกลไปถึงชายทะเล หอชัชวาลเวียงชัยยังเป็นสถานที่ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงใช้ส่องกล้องทอดพระเนตรศึกษาดวงดาวต่างๆบนท้องฟ้า จนมีพระราชปรีชาสามารถด้านดาราศาสตร์และโหราศาสตร์ ขึ้นไปบนหอนะครับ จะเห็นวิวทิวทัศน์ บ้านเรือน สถานที่ต่างๆของอำเภอเมืองจังเพชรบุรีหมดเลยครับ 

ทางขึ้นไปบนหอชัชวาลเวียงชัย หรือกอดูดาวนะครับ ทางบันไดน่าหวาดเสียว ขั้นบันไดเล็กๆ ไม่กว่้างแต่เป็นปูน รองรับนำหนังนักท่องเที่ยวได้มุกขนาดไซต์ครับ ผมยังแอบหวั่นใจตอนขึ้นไปตลอด 

ระหว่างทางเดินไปเขาลุกที่สองที่มีพระธาตุจอมเพชรตั้งอยู่ ระหว่างทางมีศาลาด่านหลัง มีป้อมปราชัย สถานที่ตรงนี้เวลามีงานประจำปี จะเป็นที่จุดพลุสวยสดใสบนท้องฟ้าแหละครับ มองวิวไปรอบๆข้างล่างได้กว้าง มองมุมไหนก็ได้ ทิวทัศน์สวยทุกมุม มีพรรณไม้ระหว่างทางมากมาย อากาศร้อนแต่รู้สึกสดชื่นไปด้วย ต้นไม้เยอะมาก 

เขายอดกลาง เป็น พระธาตุจอมเพชร
เป็นเจดีย์สีขาว ที่มองเห็นเด่นแต่ไกล พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ โปรดเกล้าฯ ให้บูรณะเจดีย์เก่าที่มีอยู่ก่อน แล้วอัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุไว้และพระราชทานนามว่า พระธาตุจอมเพชร

ช่วงทางขึ้นไปยังพระธาตุจอมเพชร เตรียมนับขั้นบันไดเเข่งกันได้เลยครับ เหนื่อยเหมือนออกกำลังกายมาทั้งวันกันทีเดียว 

มาถึงแล้วพระธาตุจอมเพชร หอบกันทีเดียวครับ 

เดินไปต่อครับเขาลูกสามที่มีอุโบสถวัดพระเเก้วน้อย และ พระปรางค์แดง  เดินมาครึ่งทางแล้วครับ เที่ยวชมเขาวังวันเดียว น้ำหนักผมอาจจะหายไปหลายกี่โล ผอมก็คราวนี้ครับ 

วัดพระแก้วน้อย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงโปรดเกล้าให้สร้างเป็นวัดประจำพระราชวังพระนครคีรี ซึ่งประกอบด้วย พระอุโบสถ พระสุทธเสลเจดีย์ พระปรางค์แดง หอระฆัง และ ศาลาราย

พระอุโบสถอยู่ด้านบน โดยมีหอระฆังอยู่ตรงด้านหน้า  ที่เห็นยอดปลายแหลมด้านหลังโน่นก็คือ พระสุทธเสลเจดีย์ ส่วนด้านล่างก็เป็นศาลา

อีกฝากหนึ่งตรงข้ามกัน จะเป็นพระปรางค์แดงห้ายอด บางครั้งชาวเพชรบุรีเรียกว่าเจดีย์แดง ถ้าท่านใดมาถึงเจดีย์แดง แปลว่ท่านมาเที่ยวเขาวังอย่างสมบูรณ์ ไปเที่ยวอย่างถึงแก่นเลยครับ 

ศาลาบริเวณเดียวกับพระปรางค์แดง สามารถถ่ายรูปและชมวิวทิวทัศน์จังหวัดเพชรบุรีได้เลยครับ เป็นกูเกิลแมบแบบสามมิติเลยครับ 

จบท้ายด้วยเพื่อนสหายร่วมโลกอย่างเจ้าลิงเเสนซน ลิงเขาวังครับ เห็นภาพนี้แล้วยังคิดว่า ลิงตัวนี้คงคิดถึงใครสักคน อย่างผมที่คิดถึงเขาวัง พระนครครี สถานที่แห่งนี้แน่นอนครับ สร้างความประทับใจหลายอย่าง สร้างความอดทนในการเที่ยวชม เพราะมันเหนื่อย และร้อนมาก แต่เมื่อได้เห็นทิวทัศน์ สถานที่ประวัติศาสตร์ต่างๆ คงรู้สึกหายเหนื่อยกันทีเดียว ถ้าท่านไหนได้แวะมาเที่ยวที่จังหวัดเพชรบุรี อุทยานพระนครคีรีเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาดมาเที่ยวชมกันครับ และอีกอย่างนะครับ คนเพชรบุรีก็น่ารักมากครับ ใจดี ไม่ดุเหมือนที่สมญานาม คนเมืองเพชร คนเมืองดุ หรือถื่นมือปืนแต่อย่างใดเลยครับ ผมหลงมนต์เสน่ห์เมืองเพชรบุรีไปกันทีเดียว  

ขอบคุณภาพสวยๆจาก กระทู้พันทิพย์ด้วยครับ  http://m.pantip.com/topic/32539624