เลื่อนลงล่าง

อุทยานเเห่งชาติภูเวียง

โดย. Nattawan Bfc

22/05/59

Tag

Count :

Share

ดูนก

อุทยานแห่งชาติภู เวียงเป็นแหล่งดูนกแห่งหนึ่ง เส้นทางดูนกอยู่บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ เส้นทางเดินป่า และบริเวณสองข้างทางถนนภายในอุทยานแห่งชาติ

ทุ่งกูกติ

เป็นทุ่งกว้างอยู่ บนเทือกเขาภูเวียงท้องที่ต่อระหว่างอำเภอชุมแพ และอำเภอภูเวียง มีเนื้อที่ประมาณ 2,000 ไร่ เป็นพื้นที่ที่มีทัศนียภาพที่งดงามมองเห็นทิวทัศน์ของชุมแพได้ มีแหล่งน้ำ การเดินทางเข้าที่บ้านโนนสะอาด และเดินขึ้นเขาประมาณ 6 กิโลเมตร

ทุ่งใหญ่เสาอาราม

ตั้งอยู่ในพื้นที่ ตำบลในเมือง อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น ห่างจากน้ำตกตาดฟ้าไปทางทิศตะวันออกประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่บนเทือกเขาภูเวียงมีตำนานว่าเคยเป็นที่อยู่อาศัย ของพวกชาวป่าในสมัยก่อน มีร่องรอยวัดวาอาราม บ้าน ในสมัยโบราณ สภาพทิวทัศน์ของทุ่งหญ้าและป่าเบญจพรรณกว้างไกลสุดตางดงาม นอกจากนี้ยังมีดอกไม้ป่าที่ขึ้นอยู่หลากหลาย และสัตว์ป่าที่มีค่าหายากต่างๆ

น้ำตกซำจำปา

เป็นน้ำตกธรรมชาติ ที่สวยงามอีกแห่งในช่วงฤดูฝนถึงต้นฤดูหนาวสูงประมาณ 15 เมตร อยู่ทางทิศเหนือของเทือกเขาภูเวียง เป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติ เข้าทางบ้านขามป้อม ตำบลขัวเรียง อำเภอชุมแพ จากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติทึ่ ภว.2 (หัวภูชน) ไปน้ำตกประมาณ 3 กิโลเมตร

น้ำตกตาดกลาง

ตั้งอยู่ในท้องที่ ตำบลในเมือง อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น เป็นน้ำตกขนาดใหญ่อยู่ในเส้นทางบ้านโคกสูง ถึงรอยเท้าไดโนเสาร์ที่หินลาดป่าชาด ถึงทุ่งใหญ่เสาอารามห่างจากรอยเท้าไดโนเสาร์ประมาณ 4 กิโลเมตร

น้ำตกตาดจำปา

เป็นน้ำตกธรรมชาติ ที่สวยงามอีกแห่งในช่วงฤดูฝนถึงต้นฤดูหนาวสูงประมาณ 15 เมตร อยู่ทางทิศเหนือของเทือกเขาภูเวียง เป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติ เข้าทางบ้านขามป้อม ตำบลขัวเรียง อำเภอชุมแพ จากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติทึ่ ภว.2 (หัวภูชน) ไปน้ำตกประมาณ 3 กิโลเมตร

น้ำตกตาดฟ้า

ตั้งอยู่ในท้องที่ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองภูเวียง จังหวัดขอนแก่น อยู่ห่างจากทุ่งใหญ่เสาอารามประมาณ 5 กิโลเมตร และห่างจากบ้านโคกสูงประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดกลางอยู่ทางทิศเหนือของเทือกเขาภูเวียง มีเส้นทางเดินเท้าขึ้นเขาระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร จากด่านตรวจโคกสูง มีความสูงประมาณ 15 เมตร สภาพป่าเป็นป่าดิบที่อุดมสมบูรณ์ ทางอุทยานแห่งชาติได้จัดสถานที่กางเต็นท์ไว้ให้สำหรับผู้ประสงค์จะพักแรม

น้ำตกตาดฮางริน 

เป็นน้ำตกขนาดเล็ก อยู่ใกล้กับด่านตรวจโคกสูง มีระบบชลประทานแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน ลักษณะเป็นรางไม้ มีเสาค้ำยัน ผูกโยงกับต้นไม้ รองรับน้ำจากธารน้ำตกไหลลงสู่คลอง ในช่วงฤดูฝนจะมีน้ำไหลลงสู่พื้นนา ซึ่งบริเวณน้ำตกนี้จะร่มรื่น คงสภาพความเป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์ของพืชพันธุ์ไม้ป่าดิบแล้ง

น้ำตกทับพญาเสือ

เป็นน้ำตกที่ลาดยาว ประมาณ 400 เมตร อยู่ทางด้านทิศใต้ของเทือกเขาภูเวียง มีเส้นทางเดินเท้าระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร จากด่านตรวจหินร่อง เป็นน้ำตก 2 ชั้น ชั้นแรกเป็นน้ำตกขนาดกลาง สูงประมาณ 8 เมตร มีธรรมชาติที่งดงาม ชั้นที่สองเป็นน้ำตกขนาดใหญ่มีน้ำไหลลาดตามลำห้วย ยาวประมาณ 100 เมตร ธรรมชาติสองข้างทางร่มรื่นสวยงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ และชมดงจันผาในยุคไดโนเสาร์

น้ำตกวังสักสิ่ว

รูปภาพโดย: น้ำฝน ปัชชาพงษ์

เป็นน้ำตกขนาดเล็ก อยู่ใกล้กับด่านตรวจโคกสูง ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นอ่างธารน้ำใหญ่ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า วังน้ำ มีลักษณะสีเขียวมรกต สวยงาม มีน้ำไหลตลอดปี

โป่งยุบ

อยู่ตรงข้ามศูนย์ บริการนักท่องเที่ยว ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 500 เมตร ก่อนขึ้นหลุมขุดค้นกระดูกไดโนเสาร์ หลุมที่ 2 อยู่ด้านขวามือ เป็นปฏิมากรรมธรรมชาติที่สวยงามอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของน้ำในช่วงฤดูฝน ส่วนที่เป็นพื้นแข็งก็จะยังคงอยู่ ส่วนที่อ่อนนิ่มก็จะถูกชะล้าง หรือยุบตัวลงไปตามสภาวะการสะสมตัวของดินและหินบริเวณนั้น ซึ่งมองดูสวยงาม ลักษณะคล้ายแพะเมืองผีที่ จังหวัดแพร่

สุสานหอย

อยู่บริเวณใกล้ เคียงกับหลุมขุดค้นกระดูกไดโนเสาร์ที่ 2 อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวประมาณ 1,500 เมตร ซากหอยที่พบ คือ หอยนางรมสกุลเอ็กโซไจรา (Exogyra) เป็นหอยที่เกิดในน้ำกร่อย จากการศึกษาซากหอยเทียบเคียงกับซากหอยยุคครีเทเชียสตอนต้น (Lower Cretaceous) ของประเทศจีน และซากไดโนเสาร์บริเวณอุทยานแห่งชาติภูเวียง บ่งชี้ว่าซากหอยเหล่านี้ อยู่ระหว่างยุคจูแรสซิกตอนปลายครีเทเชียสตอนต้น (Upper Jurassic Lower Cretaceous) หรืออยู่ช่วงอายุ 120-150 ล้านปี

หินลาดกกกุ่ม 

ลานหินขนาดใหญ่มี ก้อนหินเรียงกันเป็นกลุ่ม บางก้อนมีลักษณะคล้ายรูปสัตว์อยู่กระจัดกระจายเต็มพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ มีดอกกล้วยไม้ป่า ขึ้นอยู่ออกดอกสวยงาม หากยืนที่จุดนี้มองลงไปที่เบื้องล่างจะเห็นทิวทัศน์ของหมู่บ้านและเทือกเขา ภูเวียงสวยงามมาก

อ่างเก็บน้ำหัวภูชน

รูปภาพโดย: Home Hug

ตั้งอยู่ในท้องที่ บ้านขามป้อม ตำบลขัวเรียง อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น อยู่ห่างจากรอยเท้าไดโนเสาร์หินลาดป่าชาด ประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นลานหินขนาดใหญ่ มีก้อนหินเรียงราย เหมือนปฏิมากรรมทางธรรมชาติที่งดงาม รายรอบไปด้วยป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์ชุ่มชื่น สามารถไปนั่งชมทิวทัศน์ ถ่ายรูป นั่งพักผ่อน โดยเฉพาะหลังฤดูฝนมีดอกไม้ป่า เช่น ม้าวิ่ง กระดุมเงิน กล้วยไม้ดิน หยาดน้ำค้าง โครงเครง ฯลฯ ขึ้นอยู่ดาษดื่นงดงามมาก

ซากไดโนเสาร์ 

ซากไดโนเสาร์ แหล่งซากไดโนเสาร์ที่สามารเยี่ยมชมได้ มี 4 หลุมขุดค้น ได้แก่ 

หลุมขุดค้นที่ 1 ภูประตูตีหมา

แหล่งพบซากไดโนเสาร์ครั้งแรกของประเทศ ไทย ซากกระดูกที่พบมีขนาดใหญ่ จัดเป็นไดโนเสาร์กินพืชเป็นอาหาร (Sauropod) สกุลและชนิดใหม่ของโลก มีคอยาว หางยาว เดิน 4 ขา ความยาวประมาณ 15 เมตร สูง 3 เมตร มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Phuwiangosaurus sirindhornae บริเวณซากกองกระดูกพบฟันของไดโนเสาร์กินเนื้อขนาดใหญ่พวกคาร์โนซอร์จำนวน กว่า 10 ซึ่ สันนิษฐานว่า ไดโนเสาร์กินพืชนี้ถูกไดโนเสาร์กินเนื้อกินเป็นอาหาร ทำให้กระดูกบางส่วนกระจัดกระจายแล้วถูกทับถมโดยตะกอนซึ่งอาจจะมาจากน้ำหลาก ตามฤดูกาล 

หลุมขุดค้นที่ 2 ถ้ำเจีย

ขุดพบเมื่อปี 2536 เป็นกระดูกไดโนเสาร์กินพืชเรียงต่อกันจำนวน 6 ชิ้น 

หลุมขุดค้นที่ 3 ห้วยประตูตีหมา

ขุดค้นพบเมื่อปึ 2536 เป็นกระดูกของไดโนเสาร์กินพืชขนาดใหญ่ฝังตัวอยู่ในหินทรายหมวดหินเสาขัว เป็นชนิดพันธุ์เดียวกันกับที่ขุดพบในหลุมที่ 1 และ 2 

หลุมขุดค้นที่ 9 หินลาดยาว

ขุดค้นพบเมื่อปึ 2536 เป็นกระดูกของไดโนเสาร์กินเนื้อ มีอายุประมาณยุคครีเทเชียสตอนต้น ลักษณะกระดูกบ่งบอกว่าเป็นบรรพบุรุษของ Tyranosaurus rex หรือ ทีเร็กซ์ มีความยาวประมาณ 6.5 เมตร จัดเป็นไดโนเสาร์สกุลและชนิดใหม่ของโลก มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Siamotyrannus isanensis หรือ ไทรันสยาม 

ถ้ำคนนอน

เป็นแหล่งโบราณคดี ก่อนประวัติศาสตร์ อยู่ใกล้น้ำตกทับพญาเสือ บ้านหินร่อง ตำบลในเมืองเก่า อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น เป็นภาพลายเส้นโค้งหักงอต่อกับลายเส้นกากบาท 2 รูป และเป็นลายเส้นผสมกับลายจุดบนก้อนหินทรายกว้างประมาณ 4 เมตร ยาวประมาณ 15 เมตร ภาพเขียนอยู่บริเวณหลืบหินด้านทิศใต้เขียนด้วยสีแดงคล้ายน้ำหมาก

ถ้ำฝ่ามือแดง

เป็นแหล่งโบราณคดี ก่อนประวัติศาสตร์ อยู่ทางด้านทิศใต้ของเทือกเขาภูเวียง ห่างจากหมู่บ้านหินร่อง ตำบลในเมือง อำเภอภูเวียง ประมาณ 4 กิโลเมตร พบภาพฝ่ามือแดงบริเวณหลืบหินทราย ลึกประมาณ 7 เมตร สูง 3 เมตร ยาว 50 เมตร ขนาดเท่ามือผู้ใหญ่ 4 ภาพ ขนาดเล็ก 2 ภาพ โดยวิธีเอามือทาบกับผนังหินและพ่นสีแดงเรื่อๆ หน่วยศิลปากรที่ 7 สำรวจพบเมื่อปี พ.ศ. 2507

ถ้ำหินลาดหัวเมย

เป็นแหล่งโบราณคดี ก่อนประวัติศาสตร์ อยู่ใกล้เคียงกับถ้ำฝ่ามือแดง ห่างออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 300 เมตร พบเมื่อปี 2523 พบภาพที่เขียนด้วยสีแดงหรือสีน้ำตาลแดง เป็นชนิดลายเส้นคู่ขนานเรียงแถว บางจังหวะต่อกันเป็นรูปเส้นโค้งคู่ขนานแบบหัวลูกศร

พระพุทธไสยาสน์ 

ประดิษฐานอยู่บนยอด เขาภูเวียง บ้านไชยสอ ตำบลไชยสอ อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น เป็นพระพุทธรูปศิลปะแบบทวาราวดี ปางไสยาสน์ หันพระเศียรไปทางทิศตะวันตกและหันพระพักตร์ไปทางด้านทิศใต้ สลักอยู่บนหน้าผายาว 3.75 เมตร ความสูงประมาณ 650 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ปัจจุบันพระพุทธรูปยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์

ร่องน้ำจั่น

เป็นร่องหินบนภูเขา ภูเวียง มีน้ำไหลตลอดปี อยู่ที่บ้านหนองเส่าเล้า ตำบลขัวเรียง อำเภอชุมแพ มีรูปปั้นฤาษีขนาดใหญ่ เป็นจิตรกรรมที่งดงามมาแต่โบราณ สามารถเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างได้ อยู่ห่างจากถนนชุมแพ-ขอนแก่น ประมาณ 13 กิโลเมตร

รอยพิมพ์เท้าไดโนเสาร์ ที่หินนลาดป่าชาด

หินลาดป่าชาด อยู่ด้านทิศเหนือของเทือกเขาภูเวียงใกล้น้ำตกตาดฟ้าเป็นลานหินขนาดใหญ่ มีพื้นที่กว้างประมาณ 250 ตารางเมตร ปกคลุมด้วยหญ้าสูง บนลานหินเป็นรอยพิมพ์เท้าไดโนเสาร์ขนาดต่างๆ และร่องรอยการเคลื่อนไหวของสัตว์ดึกดำบรรพ์อีกหลายชนิด เช่น หนอน ริ้วรอยคลื่น

เส้นทางจักรยานเสือภูเขา 

เส้นทางจักรยานเสือ ภูเขา จากด่านตรวจโคกสูงทางทิศเหนือของอุทยานแห่งชาติภูเวียง ถึงลานกางเต็นท์ที่ 2 มีระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ผ่านหุบเขาน้อยใหญ่ โขดหิน ลำธาร และสามารถแวะชมน้ำตกวังสักสิ่วและน้ำตกตาดฮางริน มีแมกไม้สองข้างทาง ฝูงผีเสื้อที่เกาะตามลำห้วย ต้นไม้ใหญ่ที่สูงตระหง่าน สวนหินที่แลดูสุดตา ได้ทั้งความสนุกสนานและมีบรรยากาศรื่นรมย์

เส้นทางศึกษาธรรมชาติ

เส้นทางศึกษา ธรรมชาติ เป็นเส้นทางเดินเท้าที่เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับพันธุ์ ไม้ ชนิดของป่า สิ่งมีชีวิตในป่า และความหลากหลายทางชีวภาพ มี 2 เส้นทาง 

เส้นทางที่ 1 จากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวถึงหลุมขุดค้นที่ 2 และหลุมขุดค้นที่ 3 ระหว่างเส้นทางจะพบกับสถานีความรู้ต่างๆ เช่น ป่าเบิกนำ นักบุญแห่งป่านักฆ่าเลือดเย็น พรมแดนป่า เป็นต้น ระยะทาง 3 กิโลเมตร จุดเด่น คือ การศึกษาซากกระดูกไดโนเสาร์ ใช้เวลาเดินศึกษาประมาณ 2-3 ชั่วโมง

เส้นทางที่ 2 บริเวณลานกางเต็นท์ห้วยยางแห้ง ระหว่างเส้นทางจะพบสถานีความรู้หลายสถานีด้วยกัน จะผ่านหุบเขา ลำธาร ป่าไผ่ ป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ และความหลากหลายทางธรรมชาติ ระยะทาง 2.5 กิโลเมตร จุดเด่น คือ ความหลากหลายของสังคมป่า ใช้เวลาเดินศึกษาประมาณ 1-2 ชั่วโมง

เส้นทางที่ 3 บริเวณลานกางเต็นท์ตาดฟ้า ระหว่างเส้นทางจะพบสถานีความรู้หลายสถานีด้วยกัน จะผ่านป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ ลำธาร และความหลากหลายทางธรรมชาติ ระยะทาง 3-กิโลเมตร จุดเด่น คือ ต้นยางนาขนาดใหญ่ วัดรอบต้นได้ 9.59 เมตร ใช้เวลาเดินศึกษาประมาณ 2-3 ชั่วโมง

ลักษณะภูมิประเทศ

อุทยานแห่งชาติภูเวียง มีลักษณะภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นเทือกเขาล้อมรอบเป็นวงอยู่ 2 ชั้น ตรงกลางเป็นแอ่งขนาดใหญ่ คล้ายแอ่งกระทะซึ่งเป็นที่ราบและลอนลาด ส่วนพื้นที่โดยรอบแอ่งมีลักษณะเป็นเทือกเขาซึ่งมีมุมเทเข้าหาใจกลางแอ่ง ประกอบด้วยเทือกเขาที่มีความลาดชันปานกลางถึงลาดชันสูง เทือกเขาชั้นนอกสุดมียอดเขาสูงสุด 844 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง บริเวณทิศตะวันตกเฉียงใต้ของพื้นที่ และเทือกเขาชั้นในมียอดเขาสูงสุด 470 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง บริเวณทิศเหนือของพื้นที่เทือกเขาชั้นในนี่เองที่เป็นแหล่งฟอสซิลไดโนเสาร์ ส่วนระดับต่ำสุดของเชิงเขาอยู่ระดับ 210 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง 

อุทยานแห่งชาติภูเวียงตั้งอยู่บนที่ราบสูงโคราชมีลักษณะเป็นหินชั้น ซึ่งเกิดจากการสะสมตัวของตะกอนบนแผ่นดินหนากว่า 4,000 เมตร ชั้นของหินตะกอนมักมีสีแดงเกือบทั้งหมดเรียกว่าหินชั้นตะกอนแดง หรือกลุ่มหินโคราช ประกอบด้วย หน่วยหินเขาพระวิหาร หินเสาขัว หินภูพาน และหินโคกกรวด หินดังกล่าวถูกปกคลุมด้วยตะกอนร่วนและดินยุคควอเทอร์นารี่ และยุคปัจจุบัน ซึ่งในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูเวียงนั้นยังมีการสำรวจสายแร่ยูเรเนียมในพื้นที่อีกด้วย อุทยานแห่งชาติภูเวียงเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของห้วยทรายขาวซึ่งจะไหลลงลำน้ำพอง ห้วยบั้งทิ้ง ห้วยน้ำไหล ซึ่งจะไหลลงลำน้ำเชิญ ห้วยเรือ ห้วยขุมปูน ห้วยน้ำบอง และห้วยมะนาว ซึ่งจะไหลลงห้วยบอง ทั้งลำน้ำพอง หัวยบอง และลำน้ำเชิญ จะไหลลงอ่างเก็บน้ำอุบลรัตน์

ลักษณะภูมิอากาศ

อุทยานแห่งชาติภูเวียงได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ จึงแบ่งออกเป็น 3 ฤดู ดังนี้ ฤดูร้อน ระหว่างเดือนมีนาคม – เมษายน อุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดในเดือนเมษายน 36.5 องศาเซลเซียส ฤดูฝน ระหว่างเดือนพฤษภาคม – ตุลาคม ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยรายปี 1,199 มิลลิเมตร ฤดูหนาว ระหว่างเดือนพฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดในเดือนธันวาคม 16.6 องศาเซลเซียส

พืชพรรณและสัตว์ป่า

สภาพป่าบริเวณอุทยานแห่งชาติภูเวียงแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ ป่าเต็งรัง ซึ่งมีพื้นที่มากที่สุด รองลงมาได้แก่ ป่าดิบแล้งและป่าเบญจพรรณ 

ป่าดิบแล้ง ส่วนใหญ่กระจายตัวอยู่ทางตอนเหนือของเขตอุทยานแห่งชาติ และบริเวณลำธาร พันธุ์ไม้ที่สำคัญได้แก่ ตะเคียนหิน ชิงชัน พะยูง สมพง กระบก มะค่าโมง เขลง คอแลน ปอแดง สะแกแสง ฯลฯ พืชพื้นล่างและพืชอิงอาศัย ได้แก่ เอื้องหมายนา จันผา ขมิ้นโคก กระเจียวขาว ชายผ้าสีดา เอื้องแปรงสีฟัน เอื้องเขาแกละ นางอั้ว และกล้วยไม้ดง เป็นต้น 

ป่าเต็งรัง ขึ้นปกคลุมตามเชิงเขาบริเวณต่ำกว่าป่าดิบแล้ง กระจายตัวอยู่บริเวณภูประตูตีหมา และแนวภูเขาต่อเนื่องรอบในของเทือกเขาภูเวียง และกระจายตัวอยู่เชิงเขารอบนอกเทือกเขาภูเวียง พันธุ์ไม้ที่สำคัญ ได้แก่ ยางกราด เหียง พลวง เต็ง รัง ยอป่า มะเกลือกา สมอ ตีนนก ฯลฯ พืชพื้นล่างได้แก่ เอื้องหมายนา หญ้าเพ็ก มะลิป่า เปราะ กระเจียว เฟินแผง และเฟินก้านดำ เป็นต้น 

ป่าเบญจพรรณ อยู่ระหว่างรอยต่อของป่าดิบแล้งและป่าเต็งรัง และปะปนอยุ่ในป่าเต็งรังบ้าง กระจายตัวในพื้นที่บางส่วนบริเวณภูประตูตีหมาและเชิงเขารอบนอกเทือกเขาภูเวียง พันธุ์ไม้ที่สำคัญ ได้แก่ ประดู่ เสลา ตะแบกใหญ่ รัก รกฟ้า ทองหลางป่า แคทราย และตีนนก ฯลฯ 

สัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในผืนป่าภูเวียงประกอบด้วย เก้ง หมูป่า สุนัขจิ้งจอก ลิงวอก อีเห็นข้างลาย กระต่ายป่า ตะกวด กระรอกหลากสี กระจ้อน กระรอกบินเล็กแก้มขาว กระแตเหนือ กระรอกบิน ค้างคาวปากย่น หนูท้องขาว หนูจิ๊ด นกเป็ดผีเล็ก เป็ดแดง เหยี่ยวขาว เหยี่ยวนกเขาชิครา ไก่ป่า นกกระทาทุ่ง นกคุ่มอกลาย นกกวัก นกกระแตแต้แว้ด นกเขาเปล้าธรรมดา นกพิราบป่า นกเขาไฟ นกแขกเต้า นกบั้งรอกใหญ่ นกกระปูดใหญ่ นกฮูก นกเค้าแมว นกตะขาบทุ่ง นกโพระดกธรรมดา นกแอ่นตาล นกนางแอ่นบ้าน นกปรอดเหลืองหัวจุก นกแซงแซวหางปลา นกกินแมลงอกเหลือง นกกระจิบหญ้าอกเทา นกกางเขนบ้าน นกเอี้ยงสาริกา นกกินปลีอกเหลือง จิ้งจกหางแบน ตุ๊กแกบ้าน กิ้งก่าหัวแดง แย้ จิ้งเหลนหลากหลาย จิ้งเหลนบ้าน งูจงอาง คางคกบ้าน เขียดจะนา กบบัว กบอ่อง กบนา กบหนอง ปาดบ้าน อึ่งอ่างก้นขีด อึ่งอ่างบ้าน อึ่งน้ำเต้า ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีปลาน้ำจืดอีกหลายชนิดอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติภูเวียง เช่น ปลาช่อน ปลาดุกด้าน ปลาหมอไทย ปลาหลด ปลาไหล ปลาอีด ปลาหมอช้างเหยียบ ปลาซิวหนวดยาว ปลาบู่ทราย ปลาแขยงใบข้าว และปลากดขาว เป็นต้น 

โบราณชีววิทยา

ในปี พ.ศ.2519 นักธรณีวิทยาจากโครงการสำรวจแหล่งยูเรเนียม กรมทรัพยากรธรณีได้พบซากไดโนเสาร์ครั้งแรกของประเทศไทยที่ภูเวียง จากนั้นจึงได้ทำการศึกษาและสำรวจเพิ่มเติม จนพบแหล่งซากกระดูกไดโนเสาร์ถึง 9 แหล่ง ความสำคัญของซากกระดูกไดโนเสาร์ที่ภูเวียง คือ เป็นสกุลและชนิดใหม่หลายชนิด เช่น ไดโนเสาร์กินพืชภูเวียง (Phuwiangosaurus sirindhornae) ไดโนเสาร์กินเนื้อ (Siamotyrannus isanensis และ Siamosaurus suteethoni) และไดโนเสาร์นกกระจอก เทศ (Ginareemimus) สามารถจำแนกรายละเอียดได้ดังนี้ 

  • ไดโนเสาร์ในหินหมวดพระวิหาร เป็นร่องรอยไดโนเสาร์ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย โดยคิดเป็นอายุประมาณ 160 ล้านปี โดยพบบริเวณลานหินลาดป่าชาด เป็นรอยไดโนเสาร์หลายชนิดจำนวนมากกว่า 60 รอย บนผิวหน้าของชั้นหินทรายเนื้อละเอียดสีขาว เป็นรอยเท้าของไดโนเสาร์กินเนื้อเป็นอาหาร เดินด้วย 2 ขาหลัง เคลื่อนไหวได้ว่องไว มีขนาดเล็กตระกูลซีลูโรซอร์ และรอยเท้าของไดโนเสาร์ขนาดใหญ่พวกคาร์โนซอร์
  • ไดโนเสาร์ในชั้นหินหมวดเสาขัว เป็นซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์ชิ้นแรกที่พบในอุทยานแห่งชาติภูเวียง บริเวณห้วยประตูตีหมา ซึ่งมีอายุประมาณ 150 ล้านปี และชิ้นอื่นๆ ที่พบบนยอดภูประตูตีหมา มีลักษณะใกล้เคียงกับไดโนเสาร์ซอโรพอดคาเมราซอรัส ยุคจูแรสสิก ยาวถึง 15 เมตร คอยาว หางยาว เดินด้วย 4 เท้า กินพืชเป็นอาหาร

ไดโนเสาร์ที่พบในเขตอุทยานแห่งชาติภูเวียงมีหลายพันธุ์ด้วยกัน เช่น พันธุ์ไซแอมโมซอรัส เป็นไดโนเสาร์เทอโรพอดสกุลใหม่และชนิดใหม่ พันธุ์คาร์โนซอร์ เป็นไดโนเสาร์เทอโรพอดขนาดใหญ่ พันธุ์คอมพ์ซอกนาธัส เป็นไดโนเสาร์ซีลูโรซอร์ขนาดจิ๋ว ตัวเท่าไก่ และพันธุ์ไดโนเสาร์ซอโรพอดชนิดใหม่ เป็นซากดึกดำบรรพ์ของไดโนเสาร์ที่สมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย มีคอยาว หางยาว เดินด้วย 4 เท้า กินพืชเป็นอาหาร

 บริการอาหาร​

อุทยานแห่งชาติได้จัดเตรียมร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยว

ท่านสามารถจองที่พักได้ด้วยตนเองผ่านทางอินเตอร์เน็ต www.dnp.go.th ของกรมเท่านั้น (กรมไม่มีตัวแทนการจองที่พักกับภาคเอกชนรายใดทั้งสิ้น) จองล่วงหน้าได้ 60 วัน จองต่อเนื่องได้ครั้งละ 3 วัน กำหนดชำระเงินภายใน 2 วันทำการ ณ เคาน์เตอร์ บมจ.ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขาทั่วประเทศเท่านั้น หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ทำการจองให้โดยโทรมาที่ 0 2562 0760 หรือติดต่อจุดจองที่พักในส่วนภูมิภาค

กรณีที่ชำระเงินกับทางธนาคาร กรมจะทราบข้อมูลการชำระเงินได้โดยออนไลน์กับทางธนาคาร ก็จะทราบว่ารายการจองใดได้ชำระเงินแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องโทรสารเอกสารแสดงการชำระเงินมาที่กรมอีก โปรดนำหลักฐานการจองและเอกสารการชำระเงิน เฉพาะบมจ.ธนาคารกรุงไทย เท่านั้น ไปยื่นแสดงในวันเข้าพัก และในกรณีที่ชำระเงินกับหน่วยงานในสังกัดกรม ให้นำใบเสร็จรับเงินไปยื่นแสดงในวันเข้าพัก

*หมายเหตุ

กรณีที่มีผู้เข้าพักแรมในที่พักเกิน จำนวนที่กำหนด ต้องชำระค่าตอบแทนที่พักสำหรับจำนวนที่เกินอีก โดยไม่มีเครื่องนอนหรือของใช้อื่นๆ เพิ่มอีก ดังนี้ ประเภทบ้านพัก ในอัตราคนละ 100 บาท/คน/คืน และ ประเภทค่ายพัก ในอัตราคนละ 50 บาท/คน/คืน

การเดินทาง     
 
รถยนต์

เดินทางโดยรถยนต์ สามารถเดินทางได้หลายเส้นทาง
1) เดินทางผ่านจังหวัดสระบุรี เพชรบูรณ์ อำเภอหล่มสัก หล่มเก่า ด่านซ้าย ภูเรือ และอำเภอเมืองเลย เลี้ยวเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 (เลย-ขอนแก่น) และเลี้ยวเข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2019 เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
2) ใช้เส้นทางผ่านจังหวัดสระบุรี นครราชสีมา จนถึงจังหวัดขอนแก่นเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 ผ่านอำเภอภูผาม่าน และตำบลผานกเค้า เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง 
3) เดินทางผ่านจังหวัดสระบุรี อำเภอปากช่อง เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 201 ผ่านจังหวัดชัยภูมิ อำเภอภูเขียว แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 ผ่านอำเภอชุมแพ จากนั้นเดินทางเช่นเดียวกับเส้นทางที่ 2

เครื่องบิน

เดินทางโดยเครื่องบิน โดยใช้เที่ยวบิน กรุงเทพฯ-ขอนแก่น กรุงเทพฯ-เลย กรุงเทพฯ-อุดรธานี ของสายการบินต่างๆ ได้ทุกวัน สอบถามข้อมูลเที่ยวบินและสายการบิน โทร. 0-2628-2000, 0-2515-9999, 0-2267-2999 และ 1318

รถไฟ

เดินทางโดยรถไฟ ขึ้นรถไฟที่ที่สถานีรถไฟหัวลำโพงถึงสถานีรถไฟขอนแก่น ต่อรถโดยสารสายขอนแก่น-เลย ถึงอำเภอภูกระดึงแล้วต่อรถสองแถวเข้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง สอบถามข้อมูลรถไฟ โทร. 0-2225-1300 ต่อ 5201 ,0-2223-0341-3 หรือติดต่อสอบถามโดยตรงที่อุทยานแห่งชาติกระดึง โทร. 0-4287-1333, 0-4287-1458

รถโดยสารประจำทาง

เดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง ขึ้นรถโดยสารที่สถานีขนส่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (หมอชิต 2) สายกรุงเทพ-เมืองเลย ลงรถที่ผานกเค้า หรือสถานีขนส่งอำเภอภูกระดึง แล้วต่อรถสองแถวเข้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง สอบถามข้อมูลรถโดยสาร โทร.0-2936-2852-66 อัตราค่าโดยสาร
รถปรับอากาศ VIP 24 ที่นั่ง ราคา 640 บาท
รถปรับอากาศ VIP 32 ที่นั่ง ราคา 481 บาท
รถปรับอากาศ ชั้น 1 ราคา 412 บาท
รถปรับอากาศ ชั้น 2 ราคา 280 บาท
ลงรถที่ผานกเค้า *หมายเหตุ - ต่อรถสองแถวจากผานกเค้า ถึงอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ราคา 25 บาท/คน เหมาจ้างเที่ยวละ 200 บาท 

อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
หมู่ที่ 1 บ้านศรีฐาน ต.ศรีฐาน  อ. ภูกระดึง  จ. เลย   42180
โทรศัพท์ 0 42-810-833, 0 42-810-834   โทรสาร 0 42-810-833, 0 42-810-834   อีเมล phukradueng_np@dnp.go.th และ pkd_11@hotmail.co.th

แผนที่

บทวิจารณ์

Login For Reviews

แสดงความคิดเห็น

หัวข้อ
อ่านรีวิวโดย
วันที่
Tag
Browse Icon ขนาดภาพ 250 x 250 px

Tag

Count :