เลื่อนลงล่าง

อุทยานแห่งชาติแม่ปิง

15/05/59

Share

ข้อมูลทั่วไป

อุทยานแห่งชาติแม่ปิง มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน และอำเภอสามเงา จังหวัดตาก เป็นป่าที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้และสัตว์ป่า มีทิวเขาทอดยาวเหยียดสลับซับซ้อน ลำห้วยน้อยใหญ่หลายสิบสาขาไหลผ่านที่สำคัญคือ ลำห้วยแม่หาด ลำห้วยแม่ก้อและทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามโดยเฉพาะพื้นที่ป่าตั้งอยู่ทางฝั่งซ้ายของลำน้ำปิงตอนเหนือของอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล มีเนื้อที่ประมาณ 627,346 ไร่ หรือ 1,003.7536 ตารางกิโลเมตร 

เนื่องจากคณะกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยวสภาจังหวัดลำพูน ได้มีมติในการประชุมเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2521 เสนอแนะให้จังหวัดลำพูน จัดตั้งวนอุทยานขึ้นครอบคลุมบริเวณจุดท่องเที่ยวต่างๆ ในป่าสงวนแห่งชาติแม่หาด-ป่าแม่ก้อ ท้องที่อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน เพื่อจะได้เข้าไปควบคุมและจัดระเบียบกิจกรรมการพักผ่อนหย่อนใจของประชาชนในพื้นที่ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ซึ่งทางสำนักงานป่าไม้เขตเชียงใหม่ได้ให้ นายเฉลียว นิ่มนวล ไปสำรวจพื้นที่และมีความเห็นควรจัดเป็นวนอุทยานขึ้น จึงรายงานให้กรมป่าไม้ดำเนินการ ประกอบกับทางจังหวัดลำพูนได้เสนอให้กรมป่าไม้จัดพื้นที่ป่าแม่หาด-แม่ก้อเป็นแหล่งสงวนพันธุ์สัตว์ป่าหรืออุทยานแห่งชาติเช่นกัน ตามรายงานการสำรวจของ นายจีรเดช บารมี เจ้าพนักงานป่าไม้ 3 ประจำอำเภอลี้ ดังนั้นในเดือนธันวาคม 2522 กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ จึงได้มีคำสั่ง ที่ 2294/2522 ให้ นายสัมพันธ์ มิเดหวัน เจ้าพนักงานป่าไม้ 3 ไปทำการสำรวจอีกครั้งหนึ่ง ปรากฏว่า พื้นที่ป่าแม่หาด-แม่ก้อ เป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน สภาพป่าสมบูรณ์ดี มีทิวทัศน์สวยงามดีและมีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติ ที่สำคัญหลายแห่ง เช่น น้ำตกก้อหลวง ทุ่งหญ้า มีสัตว์ป่าชุกชุม เหมาะสมที่จะจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ ตามหนังสือรายงานการสำรวจ ที่ กส 0708(มก)/51 ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2523 

กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ ได้นำเสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ซึ่งได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 2/2523 เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2523 ให้กำหนดพื้นที่ป่าดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยมีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าแม่หาดและป่าแม่ก้อ ในท้องที่ตำบลดอยเต่า ตำบลโป่งทุ่ง อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ตำบลแม่ลาน ตำบลก้อ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน และตำบลบ้านนา ตำบลยกกระบัตร อำเภอสามเงา จังหวัดตาก เนื้อที่ประมาณ 626,875 ไร่ หรือ 1,003 ตารางกิโลเมตร ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2524 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 98 ตอนที่ 115 ลงวันที่ 13 กรกฎาคม 2524 เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 32 ของประเทศ 

อนึ่งในระหว่างดำเนินการจัดตั้งได้ใช้ชื่อว่า อุทยานแห่งชาติแม่หาด-แม่ก้อ ต่อมาเมื่อ ได้มีประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว กรมป่าไม้จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น อุทยานแห่งชาติแม่ปิง เพราะแนวเขตอุทยานแห่งชาติซีกซ้ายทั้งหมดครอบคลุมลำน้ำแม่ปิง ซึ่งเป็นเส้นน้ำสายใหญ่ และมีธรรมชาติที่สวยงาม เป็นจุดเด่นที่สำคัญของอุทยานแห่งชาติ 

ต่อมาได้มีการขยายเขตอุทยานแห่งชาติให้ครอบคลุมทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1087 ในท้องที่ตำบลแม่ลาน และตำบลก้อ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ระยะทาง 14.198 กิโลเมตร เนื้อที่ประมาณ 471 ไร่ หรือ 0.7536 ตารางกิโลเมตร เพื่อให้สามารถควบคุม ป้องกัน และปราบปรามการลัดลอบตัดไม้ทำลายป่า ล่าสัตว์ และเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติ โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 111 ตอนที่ 59 ก ลงวันที่ 21 ธันวาคม 2537

ด้านท่องเที่ยวผจญภัย

  • เส้นทางเดินป่าระยะไกล ทุ่งกิ๊ก - น้ำตกก้อน้อย - น้ำตกก้อหลวง 

ทุ่งกิ๊ก - น้ำตกก้อน้อย - น้ำตกก้อหลวง มีความยาวประมาณ 16 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2 วัน ต้องพักค้างแรม 1 คืน นักท่องเที่ยวสามารถพักค้างแรมและชมน้ำตกก้อน้อย จุดชมวิวตำบลก้อได้ มีลักษณะเด่นในเรื่องของสังคมทุ่งหญ้า สังคมป่าเต็งรัง ป่าสัก และ ต้นน้ำลำธารของห้วยแม่ก้อ

  • เส้นทางเดินป่าระยะไกล น้ำตกก้อน้อย - ป่าสนพระบาทยางวี - จุดชมวิวแม่น้ำปิง 

น้ำตกก้อน้อย - ป่าสนพระบาทยางวี - จุดชมวิวแม่น้ำปิง มีระยะทางไปกลับประมาณ 14 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง โดยเริ่มเดินจากน้ำตกก้อน้อย ไปสิ้นสุดที่จุดชมวิวแม่น้ำปิง แล้วเดินกลับมาพักค้างแรมที่น้ำตกก้อน้อย 1 คืน จากนั้นสามารถเลือกเส้นทางเดินกลับระหว่างทุ่งกิ๊ก หรือน้ำตกก้อหลวงในวันต่อไป มีลักษณะเด่นในเรื่อง สังคมป่าเต็งรังที่มีไม้พลวงเป็นไม้เด่น ป่าสนสองใบผสมป่าเต็งรัง ดอกไม้ป่า จุดชมวิวแม่น้ำปิง

  • เส้นทางเดินป่าระยะไกล น้ำตกก้อน้อย - ป่าสนพระบาทยางวี - ถ้ำยางวี 

น้ำตกก้อน้อย - ป่าสนพระบาทยางวี - ถ้ำยางวี มีระยะทางไปกลับประมาณ 20 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง โดยเริ่มเดินจากน้ำตกก้อน้อย ไปสิ้นสุดที่ถ้ำยางวี และเดินกลับมาพักค้างแรมที่นำตกก้อน้อย 1 คืน จากนั้นสามารถเลือกเส้นทางเดินกลับระหว่างทุ่งกิ๊ก หรือน้ำตกก้อหลวง มีลักษณะเด่นในเรื่อง สังคมป่าเต็งรังที่มีไม้พลวงเป็นไม้เด่น สังคมป่าป่าสนสองใบผสมป่าเต็งรัง ดอกไม้ป่า และถ้ำยางวี
 
ด้านธรรมชาติที่สวยงาม

  • แก่งก้อ 

เป็นชื่อเรียกของ แก่งหิน จุดหนึ่งใน 32 แก่งหินของแม่น้ำปิง ก่อนการสร้างเขื่อนภูมิพล ซึ่งในสมัยก่อนแม่น้ำปิงถูกใช้เป็นเส้นทางคมนาคมสายหลักระหว่างผู้คนในภาค กลางและ ภาคเหนือใน จังหวัด ลำพูน เชียงใหม่ ปัจจุบันแก่งก้อกลายเป็นเวิ้งน้ำขนาดใหญ่ ที่เกิดจาก ลำห้วยแม่ก้อไหลมาบรรจบกับแม่น้ำปิง โดยมีระดับน้ำที่สูงขึ้นมาจากเดิมมากหลังจากการ สร้างเขื่อน แก่งก้อมีทัศนียภาพที่สวยงาม เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว แก่งก้อยังเป็นจุด ครึ่งทางของการสัญจรทางน้ำระหว่างเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก และอ่างเก็บน้ำดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบันแก่งก้อกลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางน้ำของอุทยานแห่งชาติ -แม่ปิง ซึ่งรองรับการทำกิจกรรมทางน้ำต่าง ๆ เช่น การนั่งเรือชมทิวทัศน์สองฝากฝั่งแม่น้ำปิง 

การลากเรือนแพไปตามลำน้ำ เล่นน้ำ ตกปลา ปีนหน้าผาริมน้ำปิง และยังสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวใน จุดท่องเที่ยวอื่น ๆ ในแม่น้ำปิงได้อีก เช่น โรงเรียนเรือนแพ อุ้มปาด ถ้ำช้างร้อง วัดพระธาตุแก่งสร้อย พระบาทท่าฮ้าว ถ้ำโยคี พระบาทบ่อลม พระบาทเขาหนาม เขื่อนภูมิพล น้ำตกอุมแป และอ่างเก็บน้ำดอยเต่าเป็นต้น แก่งก้ออยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่ปิงประมาณ 23 กิโลเมตร รถยนต์สามารถเดินทางได้สะดวก และสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี 

  • จุดชมค้างคาวถ้ำฮ่อมแสน 

จุดชมค้างคาวถ้ำ ฮ่อมแสน อยู่ห่างจากแก่งก้อไปทางทิศเหนือประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นจุดที่สามารถชมฝูงค้างคาวนับล้านตัวของถ้ำฮ่อมแสนบนหน้าผาสูงออกหากินใน ตอนพลบค่ำของทุกวัน นักท่องเที่ยวสามารถชมค้างคาวได้โดยการจอดเรืออยู่ในแม่น้ำปิง

  • ถ้ำช้างร้อง 

ถ้ำช้างร้อง อยู่ห่างจากแก่งก้อไปทางทิศใต้ ประมาณ 25 กิโลเมตร เป็นถ้ำขนาดเล็ก ริมแม่น้ำปิง ภายในมีโบราณวัตถุในอดีตปรากฏหลักฐานต่าง ๆ ให้เห็นจนถึงปัจจุบัน

  • ถ้ำยางวี 

เป็นถ้ำหินปูนขนาด กลางภายในมีหินงอกหินย้อยสวยงาม เมื่อกระทบกับแสงไฟจะส่องแสง เป็นประกายสวยงาม บรรยากาศภายในสดชื่นเย็นสบาย สามารถเดินทางเข้าถึงโดย การเดินเท้า และจักรยานเสือภูเขา อยู่ห่างจากทุ่งกิ๊กประมาณ 18 กิโลเมตร

  • ทุ่งกิ๊ก 

อยู่ห่างจากที่ทำ การอุทยานแห่งชาติ 14 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นทุ่งหญ้าธรรมชาติกว้างใหญ่ซึ่งอยู่ท่ามกลางป่าเต็งรังและป่า เบญจพรรณ อยู่ด้านทิศตะวันออกของอุทยานแห่งชาติ ภูมิประเทศเป็นที่ราบเนินเขาปกคลุมด้วยทุ่งหญ้าสลับป่าเต็งรัง มีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าจำพวก เก้ง หมูป่า กระต่ายป่า ไก่ป่า และนกชนิดต่างๆ มากมาย ในช่วงฤดูแล้งดอกไม้ป่าหลายชนิดจะพากันบานเต็มทุ่งกิ๊ก สวยงามน่าชมมาก 

บริเวณทุ่งกิ๊กนี้เหมาะสำหรับผู้ที่รักธรรมชาติ ชื่นชอบกิจกรรมดูนก ซึ่งมีนกที่พบเห็นได้ง่าย เช่น นกหัวขวานสามนิ้วหลังทอง นกหัวขวานเขียวป่าไผ่ นกกระทาทุ่ง ฯลฯ จากบริเวณทุ่งกิ๊กเข้าไปอีก 9 กิโลเมตร จะพบน้ำตกก้อน้อย ซึ่งเป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน ระหว่างทางจะพบกับดงเถาวัลย์ที่สวยงาม

  • น้ำตกก้อน้อย 

น้ำตกก้อน้อย มีทั้งหมด 7 ชั้น เป็นน้ำตกที่อยู่กลางป่าลึก สายของน้ำตกเกิดจากลำห้วยแม่ก้อน้อย ที่ผ่านป่าสนพระบาทยางวี ไหลลงสู่หุบเขาสูงชั้นทำให้เกิดเป็นชั้นน้ำตกขนาดใหญ่ บางชั้นมีความสูงกว่า 100 เมตร บริเวณดังกล่าวยังมีจุดที่สามารถชมวิวทิวทัศน์เบื้องล่าง คือหมู่บ้านตำบลก้อ และอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพลบริเวณห้วยแม่ก้อได้ในระยะไกล และในช่วงฤดูหนาว สามารถชมทะเลหมอกบริเวณดังกล่าวได้อีกด้วย น้ำตกก้อน้อยสามารถเดินทางเข้าถึง โดยการเดินเท้า และจักรยานเสือภูเขาเท่านั้น อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่ปิง ประมาณ 23 กิโลเมตร ใช้เส้นทางผ่านจากทุ่งกิ๊กก่อนเข้าถึงน้ำตกก้อน้อย

  • น้ำตกก้อหลวง 

อยู่ห่างจากที่ทำ การอุทยานแห่งชาติประมาณ 22 กิโลเมตร รถยนต์สามารถเข้าไปถึง เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่างดีของชาวจังหวัดลำพูนและจังหวัด ใกล้เคียง น้ำตกก้อหลวงเป็นน้ำตกหินปูนที่เกิดจากลำน้ำในห้วยแม่ก้อ ไหลผ่านหินดินดานเทาดำและหินทรายของหน้าผาที่มีความสูงต่างระดับกันลดหลั่น กันลงมามีทั้งหมด 7 ชั้น เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีหินปูนและมีน้ำไหลตลอดปี จึงทำให้บริเวณน้ำตกมีหินงอกหินย้อยมากมาย และมีความสวยงามตามธรรมชาติ บริเวณน้ำตกยังมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่สะอาดไม่มีสิ่งใดรบกวน ทำให้มีปลาชนิดต่างๆ อาศัยอยู่มากมาย

  • น้ำตกแม่ดูด 

น้ำตกแม่ดูด เป็นน้ำตกที่อยู่ในท้องที่ตำบลยกกระบัตร อำเภอสามเงา จังหวัดตาก มีทั้งหมด 5 ชั้น บนตัวน้ำตกสามารถใช้เป็นจุดชมวิว พื้นที่หมู่บ้านเบื้องล่างได้อีกด้วย อยู่ห่างจากที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแม่ปิง ที่ มป. 11 (ดอยขุนเม่น) ประมาณ 2 กิโลเมตร

  • ป่าสนพระบาทยางวี 

ป่าสนพระบาทยางวี เป็นสภาพผืนป่าสนสองใบผสมป่าพลวง มีเนื้อที่ขนาดใหญ่ อยู่บนที่ราบสูง มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 750 – 900 เมตรในพื้นที่ป่าใจกลางอุทยานแห่งชาติ สภาพป่ายังคงความอุดมสมบูรณ์อยู่มาก บริเวณป่าสนพระบาทยางวียังมีรอยพระบาทยางวี ซึ่งชาวบ้านตำบลก้อมีความเชื่อว่าเป็นรอยพระพุทธบาท ดังนั้นจึงมีประเพณี ที่ชาวบ้านตำบลก้อ เดินทางจากหมู่บ้านทำการบวงสรวง สักการะรอยพระบาทดังกล่าว เป็นประจำทุกปี นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงได้โดยการเดินเท้าหรือใช้จักรยานเสือภูเขา ป่าสนพระบาทยางวีอยู่ห่างจากทุ่งกิ๊ก ประมาณ 14 กิโลเมตร

  • ผาแมว 

เป็นผาสูงชันริมแม่น้ำปิงบรรยากาศสงบร่มรื่น เป็นจุดชมทิวทัศน์ที่ดีอีกจุดหนึ่ง เหมาะสำหรับกิจกรรมไต่หน้าผา

  • อุ้มปาด - โรงเรียนเรือนแพ - เกาะคู่สร้างคู่สม 

อุ้มปาด - โรงเรียนเรือนแพ - เกาะคู่สร้างคู่สม อยู่ห่างจากแก่งก้อไปทางทิศใต้ ประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแม่ปิง ที่ มป.10 (อุ้มปาด) สามารถใช้เป็น ที่พักค้างแรม และจุดแวะพักผ่อนชมวิว โดยเฉพาะการชมพระอาทิตย์ตก ตรงข้ามกับหน่วยพิทักษ์ฯ อุ้มปาด อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของโรงเรียนเรือนแพ ซึ่งเป็นโรงเรียนสาขาหนึ่งของโรงเรียนบ้านก้อจัดสรร เปิดบริการการเรียนการสอนให้กับบุตรหลานของครอบครัวชาวเรือนแพประมงที่อาศัย อยู่ในลำน้ำปิง มีอาคารเรียนและที่พักนอนเป็นเรือนแพที่ลอยอยู่ในน้ำระหว่างโรงเรียนเรือนแพ กับหน่วยพิทักษ์ฯ อุ้มปาด นอกจากนี้ยังมีเกาะคู่สร้างคู่สมอยู่ระหว่างกลาง เกิดจากระดับน้ำของเขื่อนภูมิพลที่ ท่วมสูงขึ้นทำให้ผืนแผ่นดินกลายเป็นเกาะกลางน้ำมีทัศนียภาพที่สวยงาม

  • เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ จุดชมวิวผาตูบ 

เส้นทางเดินศึกษา ธรรมชาติจุดชมวิวผาตูบ มีความยาวประมาณ 1,135 เมตร อยู่บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่ปิง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง มีลักษณะเด่นในเรื่องของสังคมป่าเต็งรัง สังคมป่าไผ่ สังคมป่าเบญจพรรณ สังคมป่าดิบแล้งริมลำห้วย ลักษณะของหน้าผาหิน พืชพรรณไม้ กล้วยไม้ที่เกาะอาศัยตามหน้าผา และจุดชมวิวผืนป่าบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่ปิง

  • เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ทุ่งกิ๊กแดนมหัศจรรย์ 

เส้นทางเดินศึกษา ธรรมชาติ ทุ่งกิ๊กแดนมหัศจรรย์ มีระยะทางประมาณ 2,000 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมง มีลักษณะเด่นในเรื่องของสังคมทุ่งหญ้า สังคมป่าเต็งรัง พรมแดนป่า และจุดชมวิวทุ่งกิ๊ก

 ลักษณะภูมิประเทศ

ภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน ทอดแนวจากทิศเหนือในเขตพื้นที่อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ จรดทิศใต้บริเวณตอนเหนืออ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล อำเภอสามเงา จังหวัดตาก ภูเขาส่วนใหญ่มีความสูงโดยเฉลี่ยอยู่ในช่วง 400-800 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง มียอดเขาที่สูงที่สุดชื่อ “ดอนห้วยหลาว” อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ มีความสูงประมาณ 1,238 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เทือกเขาเหล่านี้เป็นต้นน้ำลำธารของห้วยแม่หาด ห้วยแม่ก้อ ห้วยโป่งกะ ห้วยม่วง ห้วยขุนเม่น ห้วยไคร้ เป็นต้น ห้วยต่างๆ เหล่านี้จะไหลลงสู่ลำน้ำปิงที่ทอดยาวตลอดแนวเขตพื้นที่ด้านทิศตะวันตก

สำหรับพื้นน้ำส่วนที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแม่ปิง เริ่มจากอำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ไหลลัดเลาะตามหุบเขา โตรกผา ลงมาทางทิศใต้จนถึงตอนบนของอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนภูมิพล อำเภอสามเงา จังหวัดตาก มีความยาวประมาณ 100 กิโลเมตร ความกว้างโดยเฉลี่ยของลำน้ำแม่ปิงประมาณ 500 เมตร ความลึกโดยเฉลี่ยประมาณ 30 เมตร ส่วนที่กว้างที่สุดของลำน้ำแม่ปิงในเขตอุทยานแห่งชาติ อยู่ทางตอนใต้บริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล เขตอำเภอสามเงา จังหวัดตาก มีความกว้างประมาณ 6 กิโลเมตร โดยทั่วไปชาวบ้านเรียกว่า “บ่อลม” และ “พระบาทห้วยห้าง”

 ลักษณะภูมิอากาศ

โดยทั่วไปอุทยานแห่งชาติแม่ปิง มีลักษณะคล้ายคลึงกันกับท้องถิ่นใกล้เคียงของจังหวัดในภาคเหนือ แต่เนื่องจากลักษณะความสูงต่ำของภูมิประเทศและการมีป่าปกคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ภูมิอากาศบางส่วนจึงแตกต่างไปจากบริเวณโดยรอบอยู่บ้าง โดยอุณหภูมิเฉลี่ยของพื้นที่ตอนบนของอุทยานแห่งชาติประมาณ 25 องศาเซลเซียส ในขณะที่อุณหภูมิตอนล่างของพื้นที่บริเวณเขื่อนภูมิพลและเขตจังหวัดตากจะสูงกว่าเล็กน้อยประมาณ 27 องศาเซลเซียส ฝนตกในบริเวณทางตอนเหนือของพื้นที่อุทยานแห่งชาติมากกว่าทางตอนใต้ เดือนกันยายนเป็นเดือนที่มีฝนตกมากที่สุด ปริมาณน้ำฝนโดยเฉลี่ย 1,060-1,184 มิลลิเมตรต่อปี

 พืชพรรณและสัตว์ป่า
พื้นที่ป่าส่วนใหญ่เป็นป่าผลัดใบ ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป โดยเฉพาะตามเทือกเขาที่เป็นดินปนทรายและมีความสูงไม่เกิน 1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ส่วนที่เหลือประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ เป็นป่าดงดิบขึ้นอยู่เป็นพื้นที่แคบๆ ตามหุบเขาและริมลำห้วย 

  • ป่าเต็งรัง เป็นสังคมพืชที่มีเนื้อที่มากที่สุดในอุทยานแห่งชาติแม่ปิง พบอยู่ทั่วไปทั้งในที่ราบ ตามลาดเขาสูงชัน และบนสันเขา ในระดับความสูงจากน้ำทะเล 450-1,000 พันธุ์ไม้ที่พบบ่อย ได้แก่ เต็ง รัง เหียง แดง มะขามป้อม พลวง กุ๊ก รกฟ้า มะกอกเกลื้อน แสลงใจ ผักหวาน ฯลฯ พืชพื้นล่างได้แก่ เป้ง ปรง กวาวเครือ กล้วยไม้ดิน และหญ้าชนิดต่างๆ 

 

  • ป่าเบญจพรรณ พบขึ้นไปทั่วทั้งในที่ราบและตามลาดเขา ในระดับความสูงจากน้ำทะเลระหว่าง 450-800 เมตร ชนิดไม้ที่สำคัญได้แก่ สัก แดง กระพี้เขาควาย มะกอกเกลื้อน กระพี้จั่น ประดู่ ตะคร้อ เก็ดแดง ตีนนก ฯลฯ พืชพื้นล่างได้แก่ เสี้ยวป่า ไผ่รวก ไผ่ซางนวล ไผ่หนาม เป้ง กวาวเครือ ถั่ว ปอยาบ เป็นต้น ในบริเวณของป่าผลัดใบทั้งสองชนิดนี้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหารของ กระต่ายป่า เก้ง กวางป่า วัวแดง ไก่ป่า นกกระทาทุ่ง นกคุ่ม นกหัวขวานสามนิ้วหลังทอง นกหัวขวานตะโพกแดง นกขี้เถ้าใหญ่ นกกระจิบหญ้าสีข้างแดง แย้ ตะกวด และงูกะปะ เป็นต้น 

 

  • ป่าดงดิบ ประกอบด้วยป่าดิบแล้งและป่าดิบชื้น พันธุ์ไม้ที่สำคัญได้แก่ ตะเคียนทอง มะค่าโมง กระบก มะกอก และสมอพิเภก เป็นต้น เป็นที่อยู่อาศัยและแหล่งหลบซ่อนตัวของหมีควาย กวางป่า วัวแดง ลิงลม ลิงวอก ชะนีมือขาว กระรอก นกกาฮัง นกแก๊ก นกปรอดโอ่งเมืองเหนือ และนกเขียวคราม ในบริเวณทุ่งหญ้า เช่น ทุ่งกิ๊ก และทุ่งนางู ซึ่งเป็นที่ราบบนเนินเขา สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 550 เมตร ดินเป็นดินปนทรายหรือลูกรัง มีความลึกพอสมควร มีไฟป่าเกิดเป็นประจำ มีไม้ยืนต้นขนาดเล็กขึ้นกระจายอยู่ห่างๆ ได้แก่ รักขาว รกฟ้า และสมอไทย ส่วนไม้พื้นล่างได้แก่ เป้ง หญ้าคา ถั่ว และกระเจียว เป็นต้น เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าขนาดเล็กถึงขนาดกลาง เช่น กระจ้อน กระแต อ้นเล็ก เก้ง หมูป่า เม่นใหญ่แผงคอสั้น ชะมด อีเห็น นกปรอดสวน นกปรอดก้นแดง นกกะติ๊ดขี้หมู เหยี่ยวขาว นกคุ่มอืด นกเขาใหญ่ นกกระปูดใหญ่ กิ้งก่าสวน จิ้งเหลนบ้าน คางคกบ้าน เขียดหนอง อึ่งอี๊ดต่างๆ เป็นต้น ตามบริเวณยอดเขา หลืบผา ถ้ำ และหน้าผาหินปูน เป็นที่อาศัยของเลียงผา กวางผา เม่นใหญ่แผงคอสั้น อ้นใหญ่ ลิงวอก ชะมด อีเห็น กระรอก ค้างคาว และเป็นที่สร้างรัง วางไข่ของเหยี่ยวชนิดต่างๆ และนางแอ่นตะโพกแดง ในบริเวณริมฝั่งน้ำ พื้นที่ชายน้ำ หรือในแหล่งน้ำเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหารของนากใหญ่ พังพอนกินปู เสือปลา เหี้ย นกอีล้ำ เป็ดแดง นกกระสานวล นกยางกรอกพันธุ์จีน นกยางเขียว นกกวัก เต่าหวาย ตะพาบน้ำ งูลายสอ เขียดหนอง เขียดหลังเขียว ปลารากกล้วย ปลาก้าง ปลาดุก ปลาไหล เป็นต้น


สัตว์ป่ามีอยู่ชุกชุมโดยเฉพาะอย่างยิ่งตามริมฝั่งแม่น้ำปิง เช่น เก้ง วัวแดง หมูป่า หมีควาย เลียงผา กวางผา เสือปลา ไก่ป่า ชะมดเช็ด ลิง ค่างเทา ชะนี หมาจิ้งจอก กระต่ายป่า กระรอก นอกจากนี้ ยังมีนกชนิดต่างๆ ทั้งนกประจำถิ่น และย้ายถิ่นอีกมากมายภายในเขตอุทยานแห่งชาติ รวมทั้งยังเป็นแหล่งพันธุ์ปลาน้ำจืดที่สำคัญ เช่น ปลานิล ปลาสวาย ปลาตะเพียน ปลาบู่ ปลาแรด เป็นต้น  

บ้านพัก-บริการ

ท่านสามารถจองที่พักได้ด้วยตนเองผ่านทางอินเตอร์เน็ต www.dnp.go.th ของกรมเท่านั้น (กรมไม่มีตัวแทนการจองที่พักกับภาคเอกชนรายใดทั้งสิ้น) จองล่วงหน้าได้ 60 วัน จองต่อเนื่องได้ครั้งละ 3 วัน กำหนดชำระเงินภายใน 2 วันทำการ ณ เคาน์เตอร์ บมจ.ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขาทั่วประเทศเท่านั้น หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ทำการจองให้โดยโทรมาที่ 0 2562 0760 หรือติดต่อจุดจองที่พักในส่วนภูมิภาค

กรณีที่ชำระเงินกับทางธนาคาร กรมจะทราบข้อมูลการชำระเงินได้โดยออนไลน์กับทางธนาคาร ก็จะทราบว่ารายการจองใดได้ชำระเงินแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องโทรสารเอกสารแสดงการชำระเงินมาที่กรมอีก โปรดนำหลักฐานการจองและเอกสารการชำระเงิน เฉพาะบมจ.ธนาคารกรุงไทย เท่านั้น ไปยื่นแสดงในวันเข้าพัก และในกรณีที่ชำระเงินกับหน่วยงานในสังกัดกรม ให้นำใบเสร็จรับเงินไปยื่นแสดงในวันเข้าพัก ดูคำแนะนำเพิ่มเติ่ม คลิกที่นี่

  หมายเหตุ

กรณีที่มีผู้เข้าพักแรมในที่พักเกิน จำนวนที่กำหนด ต้องชำระค่าตอบแทนที่พักสำหรับจำนวนที่เกินอีก โดยไม่มีเครื่องนอนหรือของใช้อื่นๆ เพิ่มอีก ดังนี้ ประเภทบ้านพัก ในอัตราคนละ 100 บาท/คน/คืน และ ประเภทค่ายพัก ในอัตราคนละ 50 บาท/คน/คืน สำหรับการจัดโซนและจำนวนที่พัก-บริการ ที่เปิดให้บริการในอุทยานแห่งชาติมีดังต่อไปนี้

  • ค่ายเยาวชน

มีอาคารค่ายเยาวชน สำหรับบริการนักท่องเที่ยว ซึ่งอยู่บริเวณทุ่งกิ๊ก

  • ที่พักแรม/บ้านพัก

บริเวณแก่งก้อ มีเรือนแพพัก 2 หลัง ไว้บริการนักท่องเที่ยว

  • ลานกางเต็นท์

 

อุทยาน แห่งชาติจัดเตรียมสถานที่กางเต็นท์และเต็นท์ไว้ให้บริการ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกสถานที่กางเต็นท์ได้หลายจุด เช่น สถานที่กางเต็นท์ประเภทป่าทุ่งหญ้า ที่ทุ่งกิ๊ก สถานที่กางเต็นท์ประเภทริมน้ำตก ที่น้ำตกก้อน้อย น้ำตกก้อหลวง และสถานที่กางเต็นท์ประเภทริมอ่างเก็บน้ำ ที่แก่งก้อ และอุ้มปาด เป็นต้น การสำรองที่พักเต็นท์สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดและสำรองที่พักเต็นท์ได้ กับอุทยานแห่งชาติโดยตรง หากต้องการดูรายละเอียดเกี่ยวกับคำแนะนำ อัตราค่าบริการสถานที่กางเต็นท์และเต็นท์เพิ่มเติ่ม คลิกที่นี่

 

การเดินทาง    

  • รถยนต์

     จากกรุงเทพ มหานคร โดยใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข A1 (พหลโยธิน) ผ่านจังหวัดต่าง ๆ ขึ้นมาทางภาคเหนือ ผ่านจังหวัดตาก เข้าเขตอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง แล้วแยกซ้ายเข้าเส้นทางหมายเลข 106 ที่ต่อเนื่องมาจากจังหวัดลำพูน จนถึงกิโลเมตรที่ 47 แล้วแยกซ้ายเข้าเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1087 เข้าสู่อุทยานแห่งชาติแม่ปิง โดยที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่ปิงอยู่ระหว่างกิโลเมตรที่ 20 – 21 รวมระยะทาง 587 กิโลเมตร

จากจังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 106 ผ่านอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ เข้าเขตอำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ผ่านอำเภอป่าซาง อำเภอบ้านโฮ่ง จนถึงอำเภอลี้ ผ่านอำเภอลี้ประมาณ 3 กิโลเมตรจะถึงทางแยกขวาเข้าเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1087 เข้าสู่อุทยานแห่งชาติแม่ปิง รวมระยะทาง 155 กิโลเมตร

จากจังหวัดลำปาง โดยใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข A1 (พหลโยธิน) มาทางทิศใต้แล้วแยกขวาเข้าสู่อำเภอเกาะคา โดยใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1274 ผ่านอำเภอเสริมงาม อำเภอลี้ จะถึงทางแยกซ้ายเข้าเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 106 ประมาณ 3 กิโลเมตร จะถึงทางแยกขวาเข้าเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1087 เข้าสู่อุทยานแห่งชาติแม่ปิง รวมระยะทาง 123 กิโลเมตร

  • เรือ

     จาก ท่าเรือเหนือเขื่อนภูมิพล อำเภอสามเงา จังหวัดตาก ขึ้นเหนือไปตามลำน้ำแม่ปิง ผ่านบริเวณท่าน้ำแก่งก้อ จนถึงท่าเรืออำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ รวมระยะทางประมาณ 110 กิโลเมตร

อุทยานแห่งชาติแม่ยม

ตู้ ปณ.18  อ. ลี้  จ. ลำพูน   51110
โทรศัพท์ 0613753500 0931583568   โทรสาร -   อีเมล maeping-1@hotmail.com

แผนที่

บทวิจารณ์

Login For Reviews

แสดงความคิดเห็น

หัวข้อ
อ่านรีวิวโดย
วันที่
Tag
Browse Icon ขนาดภาพ 250 x 250 px