เลื่อนลงล่าง
วันนี้เรามีสถานที่ดีๆ สวย ๆ เหมาะแก่การพักผ่อนต้อนรับซัมเมอร์นี้ มาแนะนำให้กับเพื่อนๆ นั่นก็คือ "เกาะหลีเป๊ะ"
เกาะที่ถูกขนานนามว่าเป็นมัลดีฟส์เมืองไทย
อันเนื่องมาจากความสวยงามของน้ำทะเลสีใสมรกตประกอบกับหาดทรายสีขาวละเอียด อีกทั้งยังเป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังที่สวยงามอีกด้วย
พูดมาแค่นี้ก็ดูน่าสนใจแล้วใช่มั้ยล่ะคะ ตามไปเที่ยวด้วยกันเลยดีกว่าค่าาา
สามารถเช่าเรือนำเที่ยวไปดำน้ำและเที่ยวชมเกาะต่าง ๆ ในบริเวณใกล้เคียงได้
กิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลยเมื่อมาเกาะหลีเป๊ะ....นั่นก็คือ การดำน้ำ เพราะรอบๆเกาะหลีเป๊ะนี้เป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา มีเกาะทั้งหมดรวมกันกว่า 50เกาะ และมีจุดดำน้ำที่น่าสนใจมากมายหลายจุด
ที่สำคัญน้ำทะเลใสๆแบบนี้จะทำให้เราได้เห็นสีสันความสวยงามของท้องทะเลมากเป็นพิเศษ การเล่นน้ำหรือดำน้ำชมปะการังน้ำตื้น สามารถทำได้ทั่วทั้งเกาะ แต่บางพื้นที่อาจต้องคอยระวังจุดที่น้ำตื้นมากๆเข้าไว้เพราะอาจโดนปะการังที่มีความแหลมคมบาด รวมทั้งผจญกับหอยเม่นที่มีหนามแหลมคมรอบตัว
พื้นที่ที่เป็นไฮไลท์ของการดำน้ำตื้นหรือการ Snorkel นั้นจะอยู่บริเวณหมู่เกาะดง ซึ่งมีเกาะรอบๆ อยู่ 6 เกาะ ดังนี้
อ่าวลิง เกาะดง
เนื่องจากเกาะเกาะหลีเป๊ะเป็นเกาะตั้งอยู่ในแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา-เกาะอาดัง-ราวี
ดังนั้นเพื่อนๆจึงไม่ควรพลาดสถานที่ที่เหมาะแก่การศึกษาธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่สำคัญอย่างอุทยานแห่งชาติตะรุเตา!!
อุทยานแห่งชาติตะรุเตา เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกของประเทศไทย มีชื่อเสียงทางด้านประวัติศาสตร์และความสวยงามของธรรมชาติ ตั้งอยู่ในทะเลอันดามัน ห่างจากตัวเมืองสตูลประมาณ ๔๐ กิโลเมตร และห่างจากฝั่งที่ท่าเรือปากบารา ๒๒ กิโลเมตร มีอาณาเขตทิศเหนือจดอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ทิศใต้จดทะเลที่เป็นแนวพรมแดนระหว่างประเทศไทยและสหพันธรัฐมาเลเซีย มีพื้นที่ทั้งเกาะและทะเลรวมกันประมาณ ๑,๔๙๐ ตารางกิโลเมตร ประกอบไปด้วยหมู่เกาะใหญ่น้อย จำนวน ๕๑ เกาะ มีเกาะขนาดใหญ่ ๗ เกาะ ได้แก่ เกาะตะรุเตา เกาะอาดัง เกาะราวี เกาะหลีเป๊ะ เกาะกลาง เกาะบาตวง และเกาะบิสสี แบ่งออกเป็น ๒ หมู่เกาะใหญ่ คือ หมู่เกาะตะรุเตา และหมู่เกาะอาดัง-ราวี ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๑๗ และ ได้รับยกย่องจากองค์การยูเนสโก ในปี พ.ศ. ๒๕๒๕ ให้เป็นมรดกแห่งอาเซียน (ASEAN Heritage Parks and Reserves) ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวอยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายน – เมษายน
ลักษณะภูมิประเทศ
• อุทยานแห่งชาติตะรุเตามีสภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขามีความลาดชันสูง ชายฝั่งทางด้านตะวันออก ส่วนมากจะเป็นหน้าผาสูงชันสลับกับอ่าวและหาดทรายโคลน ทางด้านตะวันตกจะมีหน้าผาเฉพาะทางด้านเหนือบริเวณแหลมตันหยงมะระ(ด้านหัวเกาะ) มีที่ราบอยู่เป็นหย่อมๆ ทางเทือกเขาหลังอ่าว อ่าวที่สำคัญได้แก่ อ่าวพันเตมะละกา อ่าวสน อ่าวมะขาม อ่าวตะโละอุดัง และอ่าวตะโละวาว เป็นต้น อ่าวต่างๆ เหล่านี้มีคลองและลำธารไหลผ่านออกสู่ทะเล มีที่ราบเล็กน้อย เกาะอาดัง-ราวี อยู่ห่างจากเกาะตะรุเตาไปทางทิศตะวันตกประมาณ 40 กิโลเมตร สภาพพื้นที่เป็นเทือกเขาสูงครอบคลุมเนื้อที่เกือบทั้งหมดของเกาะ มีที่ราบเฉพาะบริเวณเหนือชายหาดต่างๆ
ลักษณะภูมิอากาศ
• ข้อมูลภูมิอากาศของอุทยานแห่งชาติตะรุเตาในรอบปีที่ผ่านมา (มกราคม 2543-พฤศจิกายน 2543) พบว่า ฝนตกมากที่สุดในเดือน เมษายน ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 11.66 มิลลิเมตร รองลงมาเดือน มิถุนายน ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 10.59 มิลลิเมตร และตกน้อยที่สุดในเดือน มกราคม ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 0.01 มิลลิเมตร อุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุด 34.5 องศาเซลเซียสในเดือนกุมภาพันธ์ อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุด 10.5 ในเดือนกันยายน
พันธุ์ไม้และสัตว์ป่า
พืชพรรณ สามารถจำแนกออกได้ เป็น 6 ประเภท ได้แก่
• ป่าดงดิบ พันธุ์ไม้ที่พบ เช่น หงอกค่าง ยางปาย ยางเสียน เป็นต้น
• ป่าผสมผลัดใบ/ป่าเขาหินปูน พันธุ์ไม้ที่พบ เช่น รักขาว รักป่า สะแกแสง เป็นต้น
• ป่าชายหาด พันธุ์ไม้ที่พบ เช่น เสม็ดชุน เสม็ดขาว สนทะเล รักทะเล เป็นต้น
• ป่าพรุ พันธุ์ไม้ที่พบ เช่น จิกน้ำ ตีนเป็ดเล็ก กะลิง เป็นต้น
• ป่าชายเลน พันธุ์ไม้ที่พบ เช่น เหงือกปลาหมอดอกม่วง ตีนเป็ดทะเล แคทะเลหรือแคป่า เป็นต้น
• ป่าแคระ/ไม้พุ่ม พันธุ์ไม้ที่พบ เช่น ปรงเขา ส้านใหญ่ ไกรทอง เป็นต้น
สัตว์ป่า จากการสำรวจสามารถจำแนกได้ดังนี้
• สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ประกอบด้วย หมูป่า กระจงควาย กระจงเล็ก เป็นต้น
• นก ประกอบด้วย นกโจรสลัด นกกระสาใหญ่ นกยางเขียว เป็นต้น
• สัตว์เลื้อยคลาน ประกอบด้วย ตะกวด เหี้ย งูเหลือม เป็นต้น
• สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก ประกอบด้วย กบภูเขา หรือเขียดแลว กบหนอง เป็นต้น
• แมลง ประกอบด้วย ผีเสื้อมรกตธรรมดา ผีเสื้อลายขีดเงินลายขอ ผีเสื้อสะพายขาวปีกโค้ง เป็นต้น
• สัตว์น้ำ ประกอบด้วย ตะพาบน้ำ ปูน้ำตก กุ้งก้ามกราม เป็นต้น
ทรัพยากรทางทะเล
• สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ประกอบด้วย พะยูน โลมาหัวขวดธรรมดา โลมาหัวขวดมลายู เป็นต้น
• สัตว์เลื้อยคลานประกอบด้วย เต่ามะเฟือง เต่าตนุ เต่ากระ เป็นต้น
• ปลา ประกอบด้วย ปลากระเบน ปลาการ์ตูน ปลาเหลืองปล้อง เป็นต้น
• หอย ประกอบด้วย หอยเป๋าอื้อ หอยฝาชี หอยมงกุฎ เป็นต้น
• หมึก ประกอบด้วย หมึกกระดอง หมึกยักษ์ หมึกกล้วย เป็นต้น
• ปู ประกอบด้วย ปูหิน ปูเสฉวน ปูม้า ปูลม เป็นต้น
• กุ้ง ประกอบด้วย กั้ง กุ้งมังกร กุ้งชีแฮ้ เป็นต้น
• ปะการัง ประกอบด้วย ปะการังลายกลีบดอกไม้ ปะการังดอกกะหล่ำ ปะการังผิวเกล็ดน้ำแข็ง เป็นต้น
เดินชมวิถีชีวิตของชาวเลบนหาดชาวเล ชาวเลกลุ่มนี้เป็นชนเผ่าอูรักลาโว้ย ซึ่งส่วนใหญ่ทำอาชีพประมงรอบเกาะ
ท่องเที่ยวรอบเกาะ เที่ยวชมความงามของน้ำทะเลบนเกาะหลีเป๊ะและเที่ยวชมเกาะต่าง ๆ ในบริเวณใกล้เคียง เช่น เกาะหินงาม เกาะหินซ้อน รวมถึงการรับประทานอาหารเที่ยงบนชายหาดที่สวยงามบนเกาะรอกลอย ซึ่งสามารถทำได้ในเวลาเพียงหนึ่งวันเนื่องจากแต่ละเกาะอยู่ไม่ไกลกันมากนัก
เกาะหลีเป๊ะเป็นเกาะเล็กๆที่อยู่ในจังหวัดสตูลและตั้งอยู่ในแห่งชาติหมู่ตะรุเตา-เกาะอาดัง-ราวี โดยเป็นที่รู้จักในชื่อว่า “มัลดีฟส์ เมืองไทย” เนื่องจากความสวยงามของน้ำทะเลที่ใสเหมือนกระจก หาดทรายสีขาวและนุ่มเหมือนสำลี รวมทั้งปะการังอ่อนหลากสีที่สามารถพบได้ในน้ำตื้น รวมทั้งความหลากของสัตว์ใต้ทะเล ทำให้เกาหลีเป๊ะได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวและสวรรค์ของนักเดินทาง นอกจากนี้จังหวัดสตูลเป็นจังหวัดที่อยู่ทางใต้ของประเทศไทยที่มีภูเขาล้อมรอบ และหมู่เกาะเล็กๆมากกว่า 40 เกาะในน่านน้ำของจังหวัดสตูล รวมทั้งมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจที่องค์การยูเนสโกให้การรับรองว่าเป็นสมบัติของทวีปเอเชียตะวันอกเฉียงใต้ และได้สถานที่นี้ก็ได้เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกของไทย นั้นก็คือ “อุทยานแห่งชาติเกาะตะรุเตา”
เกาะหลีเป๊ะเป็นเกาะที่มีชายหาด 3 แห่ง ชายหาดแห่งแรกคือ หาดพัทยา เป็นชื่อที่ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวเรียกเพี้ยนมาจาก หาดบันดาหยา และด้วยเหตุผลที่ว่าชายหาดแห่งนี้เป็นชายหาดที่มีรีสอร์ทและร้านอาหารมากมาย ทำให้นักท่องเที่ยวเรียกชื่อเหมือนกับชายหาดพัทยาที่ชลบุรี และหาดแห่งนี้เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบความครื้นเครงและทำกิจกรรมต่างยามค่ำคืน ชายหาดแห่งที่สองคือ หาดซันไรส์ หรือ หาดตะวันขึ้น เนื่องจากชายหาดแห่งนี้เป็นหาดทรายที่อยู่หน้าเกาะหลีเป๊ะในทางทิศตะวันออก ทำให้ซันไรส์บีช เป็นชายหาดแห่งที่เห็นดวงอาทิตย์ขึ้น นอกจากนี้บริเวณดังกล่าวมีหมู่บ้านชาวประมงที่เป็นคนพื้นเมืองหรือที่เราเรียกว่า “ชาวมอแกน” ชายหาดสุดท้ายที่ชื่อว่า ซันเซทบีช หรือหาดดวงอาทิตย์ตก ณ ชายหาดแห่งนี้เป็นชายหาดเล็กๆ แต่เป็นชายหาดเดียวที่สามารถชมวิวของพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกดินได้จากจุดๆเดียว รวมทั้งเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของเกาะหลีเป๊ะและ ซันเซทบีชเป็นชายหาดที่สงบ ซึ่งแตกต่างจากหาดพัทยาทำให้เหมาะแก่การพักผ่อนวันหยุด นอกจากนนี้ยังเป็นที่ของเม้าเทริ์นรีสอร์ทเกาะหลีเป๊ะ
แหล่งข้อมูล:http://www.mountainresortlipe.com/web_thai/koh_lipe_info.html
ร้านรักษ์เล เป็นร้านที่ทำอาหารไทยและอาหารซีฟู้ด ตั้งอยู่บริเวณ ถนนคนเดินเกาะหลีเป๊ะ เปิดให้บริการกันทุกวัน ทั้งอาหารเช้า อาหารกลางวัน และอาหารเย็น ไปจนมื้อดึก ปิดกันยันเที่ยงคืน
บนเกาะหลีเป๊ะ ถ้าจะมองหาร้านอาหารระดับ5ดาว ราคาคุ้มคุณภาพ สะดุดตาขอแนะนำร้าน "The Cove Bistro" ร้านนี้ตั้งอยู่ที่หาดชาวเล เกาะหลีเป๊ะ เป็นร้านอาหารของรีสอร์ทที่ชื่อว่า ไอดีลิค คอนเซ็ปรีสอร์ท
ร้านเตอร์บิลังโรตีชาชัก ตั้งยู่ที่ถนนคนเดิน บนเกาะหลีเป๊ะ เป็นต้นตำรับชาชัก OTOP เมืองสตูล
บันดาหยา รีสอร์ท ตั้งอยู่บนเกาะหลีเป๊ะจังหวัดสตูล รีสอร์ทแห่งนี้สามารถจัดทัวร์ไปท่องเที่ยวตามเกาะ ดำน้ำแบบสนอร์เกิ้ล ดำน้ำแบบสกูบ้า และพายเรือคายักให้คุณได้ และเมื่อคุณเหนื่อยล้าจากการทำกิจกรรมต่าง ๆ บริการนวดของรีสอร์ทก็จะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อให้คุณได้ ที่พักที่นี่ทำด้วยไม้เพื่อให้กลมกลืนกับธรรมชาติ ผู้เข้าพักสามารถมายังเกาะหลีเป๊ะได้ด้วยเรือเฟอร์รี่หรือสปีดโบ้ทจากเกาะลันตา จังหวัดสตูล หรือเกาะลังกาวีก็ได้ ตารางเดินเรือเฟอร์รี่อาจเปลี่ยนแปลงในช่วงโลว์และไฮซีซั่น
หากคุณกำลังมองหาโรงแรมที่เดินทางไปได้ง่ายใน เกาะหลีเป๊ะ ไม่ต้องมองหาที่อื่นนอกจาก เม้าน์เท้น รีสอร์ท จากที่นี้ ผู้เข้าพักสามารถไปยังทุกที่ในเมืองอันมีชีวิตชีวานี้ได้อย่างง่ายดาย โรงแรมสไตล์โมเดิร์นแห่งนี้ตั้งอยูใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมของเมืองหลายแห่ง เช่น คาร์มา บีช, อุทยานแห่งชาติทางทะเล ตะรุเตา, หาดซันเซ็ต
วิธีการเดินทางไปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะนั้น นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะใช้การเดินทางจากท่าเรือปากบารา จังหวัดสตูล นั่งเรือโดยสาร speedboat เพื่อมายังเกาะหลีเป๊ะ
ระยะทางจากสนามบินหาดใหญ่ จ.สงขลา - ท่าเรือปากบารา จังหวัดสตูล ระยะทาง 137 กิโลเมตร
ระยะทางจากสนามบินจังหวัดตรัง - ท่าเรือปากบารา จังหวัดสตูล ระยะทาง 106 กิโลเมตร
การซื้อตั๋วเรือ จะมี2ประเภท คือ ตั๋วแบบเที่ยวเดียว และตั๋วไปกลับ ซึ่งการซื้อตั๋วไปกลับจะได้ส่วนลดถูกกว่าเหมาะกับคนที่รู้วันกลับแน่นอนแล้ว
เมื่อมาถึงเกาะหลีเป๊ะ เรือใหญ่จะเข้าเกาะไม่ได้ ที่เกาะหลีเป๊ะไม่มีท่าเทียบเรือใหญ่ ต้องต่อเรือเล็กเข้าไปที่เกาะ
ร
ตารางการเดินเรือ จากท่าเทียบเรือปากบารา-ไปเกาะหลีเป๊ะ และ จากเกาะหลี สู่ ท่าเทียบเรือปากบารา
ราคาค่าบริการเรือรับส่งระหว่าง ท่าเรือปากบารา - ตะรุเตา - เกาะหลีเป๊ะ
เรือ |
บริษัท |
ราคา(เที่ยวเดียว/ไปกลับ) |
||
ปากบารา-ตะรุเตา |
ตะรุเตา-หลีเป๊ะ |
ปากบารา-หลีเป๊ะ |
||
speed boat |
หลีเป๊ะ เฟอรี่ แอนด์ สปีดโบ๊ท |
350 / 600 |
400 |
650 / 1,200 |
บันดาหยาสปีดโบ๊ท/ |
350 / 600 |
400 |
650 / 1,200 |
|
Ferry Boat |
ไทเกอร์ ไลน์ ทราเวล จำกัด |
350 / 600 |
400 |
650 / 1,200 |
Ferry Boat |
อาดัง ซี แอดเวนเจอร์ ทัวร์ |
350 / 600 |
400 |
550 / 1,200 |
แหล่งข้อมูล: www.sadoodta.com