เลื่อนลงล่าง
ประวัติความเป็นมา
สถานที่อันเป็นธรรมภูมิที่งดงาม ซึ่งเรียกว่าผาซ่อนแก้วนี้ มีธรรมชาติเป็นภูเขาที่สูงใหญ่ ซ้อนกันเป็นทิวเขาเรียงรายโอบรอบบริเวณศาลาปฏิบัติธรรม และบนยอดเขาสูงตระหง่านนั้น มีถ้ำอยู่บนปลายยอดเขา ซึ่งมีชาวบ้านทางแดงหลายคน ได้เห็นลูกแก้วลอยเหนือฟากฟ้า และลับหายเข้าไปในถ้ำบนยอดผา ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมา และต่างถือว่าเป็นสถานที่มงคล มีความศักดิ์สิทธิ์และเรียกตาม ๆ กันว่า “ผาซ่อนแก้ว” และพุทธสถานที่มาตั้งในจุดที่โอบล้อมด้วยทิวเขาดังกล่าว จึงเรียกว่า “พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว” เพื่อเป็นนิมิตมงคลแก่ชาวบ้านทางแดง และผู้มาปฏิบัติธรรมสืบไป
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๗ ในนาม “พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว” ได้รับการอนุมัติจัดตั้งเป็นวัด ในมงคลนามว่า “วัดพระธาตุผาแก้ว” เมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ จากคณะกรรมการมหาเถรสมาคม โดยมีพระครูปลัด ปารมี สุรยุทโธ เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อวัดเป็น “วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว” เมื่อ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖ เพื่อให้สอดคล้องกับบริเวณที่ตั้ง ซึ่งแต่เดิมชาวบ้านเรียกกันว่า “ผาซ่อนแก้ว”
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วตั้งอยู่ในชัยภูมิธรรม ณ บริเวณเนินเขาในหมู่บ้านทางแดง ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ โดย คุณภาวิณี และ คุณอุไร โชติกูล ได้มีจิตศรัทธาซื้อที่ดินถวายเริ่มแรกจำนวน ๒๕ ไร่ เพื่อก่อสร้างเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมแก่พระสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนทั่วไป ปัจจุบันมีผู้ร่วมถวายปัจจัยซื้อที่ดินเพิ่มรวมทั้งสิ้นมีที่ดินรวม ๙๑ ไร่
พระครูปลัดปารมี สุรยุทโธ และ พระครูใบฎีกาอำนาจ โอภาโส สองครูบาอาจารย์คู่บุญคู่บารมี ร่วมกับคณะศิษยานุศิษย์และเหล่าผู้มีจิตศรัทธาจากทั่วประเทศได้ร่วมกันจัด สร้างเสนาสนะ กุฏิที่พักสงฆ์ อาคารปฎิบัติและบรรยายธรรม รวมถึงอาคารที่พักผู้ปฏิบัติธรรมเพื่อรองรับคณะผู้มีจิตศรัทธาจากทุกแห่งหนที่ หลั่งไหลกันเข้ามาอบรมภาวนาในแนวสติปัฎฐานสี่ แห่งองค์พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ากันอย่างต่อเนื่อง เป็นที่ปิติยินดียิ่งของครูบาอาจารย์กับเหล่าบรรดาศิษยานุศิษย์ที่ได้ร่วม แรงร่วมใจ สละทั้งแรงกาย แรงทรัพย์ พร้อมทั้งความวิริยะอุตสาหะ และ ความตั้งใจมั่นเพื่อให้วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วเป็นที่ปฏิบัติภาวนาสำหรับผู้มีจิตศรัทธาสืบต่อไป…
วัตถุประสงค์การสร้าง
เพื่อเป็นที่สอนปฏิบัติการเจริญสติปัฏฐาน ๔ ซึ่งเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ทรงชี้ว่าเป็นทางสายเอกที่นำไปสู่ความบริสุทธิ์ของกายและใจ ความดับทุกข์ การเข้าถึงมรรคและพระนิพพาน
วัดพระธาตุผาแก้ว เป็นที่วิเวกสงบโอบล้อมด้วยธรรมชาติที่งดงาม ซึ่งความเบิกบานของธรรมชาติ เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดสมาธิ เรียกว่าความสุขเป็นเหตุใกล้ให้เกิดสมาธิ สมาธิเป็นเหตุใกล้ให้เกิดปัญญา ซึ่งศาสนาพุทธล้วนเป็นกระบวนการของเหตุปัจจัย ดังนั้น สถานที่แห่งนี้จึงสร้างให้เหมาะกับเหตุปัจจัย ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่จะช่วยน้อมนำมาสู่ธรรมชาติภายในของตัวเอง
หลักคำสอนของการปฏิบัติธรรม
สติปัฏฐาน ๔ เป็นหัวใจและวัตถุประสงค์หลัก ของการสอนปฏิบัติธรรม ที่วัดพระธาตุผาแก้ว โดยเน้นความเรียบง่ายเป็นหลัก เพื่อรู้จักฐานที่ตั้งของสติ ตั้งแต่กาย ซึ่งเรียกว่ารูปธรรม และ นามธรรม ตั้งแต่ อารมณ์ จิตใจ ซึ่งอยู่กับเราตลอดเวลา ดังนั้น คำสอนหลักของการปฏิบัติธรรม ที่พุทธธรรมสถานฯ เน้นเพื่อให้รู้จักหลักของการเจริญสติปัฏฐาน ๔ เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
วัตถุประสงค์การสร้างเจดีย์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองราชย์ครบ ๖๐ ปี และเป็นที่สืบพระศาสนา ให้ดำรงอยู่คู่แผ่นดินไทย เพื่อประโยชน์แก่มนุษยชาติ และคนรุ่นหลังได้มีโอกาสเรียนรู้ต่อไป
บนยอดเจดีย์จะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งได้รับประทานมาจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก และ บริเวณใต้ฐานพระเจดีย์จะใช้เป็นที่เก็บรวบรวมหลักธรรมคำสอน, ภาพปริศนาธรรม และเป็นที่เจริญสติภาวนา สำหรับพุทธศาสนิกชนทั่วไป
ทั้งนี้ได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์พระธาตุผาซ่อนแก้ว อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ในวันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๔๙ เวลา ๑๓.๓๙ น. ซึ่งเป็นพิธีฤกษ์อุทธังราชา อันเป็นฤกษ์แห่งความสมบูรณ์มั่งคั่งของพระราชา โดยมีท่านเจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์มาเป็นประธานในพิธี
ชมภาพ
จุดประสงค์ในการสร้างนี้ เพื่อเป็นการร่วมน้อมถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในมหาวโรกาสเฉลิมฉลองพระชนม์มายุ ๘๕ พรรษา ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ของปวงชนชาวไทย อีกทั้งเป็นการสืบสานพระพุทธศาสนาให้ดำรงคงอยู่คู่แผ่นดินไทยสืบต่อไป
จากรูปจำลองด้านบนนี้ ฐานมีขนาดความกว้าง ๔๑ เมตร ยาม ๗๒ เมตร และสูง ๔๕ เมตร แบ่งเป็น ๖ ชั้น โดยส่วนของชั้นที่ ๑ และ ๒ ได้จัดเป็นที่พักของผู้เข้าปฏิบัติธรรม ส่วนบริเวณอื่นๆนั้น ใช้เป็นที่ประกอบศาสนากิจ ได้แก่ การสวดมนต์ ฟังธรรม และการปฏิบัติภาวนา
ชมภาพ
ศาลาปฏิบัติธรรมรูปทรงจตุรัสโปร่ง รายรอบด้วยบานกระจกขนาดใหญ่ เพื่อให้สัมผัสกับธรรมชาติของขุนเขาเขียวชอุ่ม พร้อมทั้งมีสวนดอกไม้ ต้นไม้นานาพรรณโดยรอบ
พระอาจารย์อำนาจ โอภาโส เป็นผู้ออกแบบก่อสร้าง และได้แรงศรัทธาของช่างชาวบ้านหมู่บ้านทางแดงเป็นผู้ก่อสร้าง ซึ่งผสมผสานงานปูน งานไม้ พร้อมศิลปะลวดลายไทยที่งดงาม ประดับทั้งภายนอกและภายในอย่างลงตัว
พระอาจารย์อำนาจ โอภาโส ดูแลการก่อสร้าง โดยใช้จินตนาการของท่าน แล้วบอกให้เหล่าช่างชาวบ้านดำเนินการตามที่ท่านบอกเป็นระยะๆ ใช้เวลาประมาณ ๑ ปี ศาลาปฏิบัติธรรมที่สง่างาม เรียบง่าย เต็มไปด้วยประโยชน์ใช้สอยอย่างสูงสุดก็แล้วเสร็จ
พระรัตนโชติมณี หรือ “พระหยกเขียว” เป็นพระพุทธรูปหยกปางมารวิชัย ซึ่งเป็นศิลปะสมัยเชียงแสน มีขนาดหน้าตัก ๖๕ นิ้ว
ทั้งองค์พระถูกแกะสลักจากหยกเขียวทั้งก้อน ที่พระเศียรได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็น พระสารีริกธาตุที่รับเมตตาประทานจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก
โดยทำพิธีอัญเชิญประดิษฐาน ณ ศาลาปฏิบัติธรรม ในวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๔๘
พระพุทธรัตนสัมฤทธิ์ผล หรือ “พระหยกขาว” เป็นพระพุทธรูปหยกปางขัดสมาธิเพชร สร้างตามรูปแบบศิลปะคันธาระ มีขนาดหน้าตัก ๓๙ นิ้ว พระเศียรขององค์พระ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่ได้รับเมตตาประทานจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ได้ทำพิธีอัญเชิญประดิษฐาน ณ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ในวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๔๘
เป็นสถานที่อันเป็นมงคลอีกแห่งหนึ่ง ซึ่ง ณ จุดใจกลางบริเวณลานโดยรอบ จะมีต้นศรีมหาโพธิ์ปลูกไว้ โดยได้นำกล้าโพธิ์ขนาดความสูง ๓ นิ้วมาจาก พระครูธรรมศาสน์อุโมษ (พระครูในฎีกาธงไชยวัฒน์ อิสฺสรธมฺโม) วัดท่ากระชัย อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ซึ่งท่านนำมาจากบริเวณรอบเจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย และได้มีเมตตามอบผ่านมาทางศิษย์ พระอาจารย์อำนาจ โอภาโส เพื่อให้นำมาปลูกเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวศรัทธา เพราะถือเป็นต้นไม้ที่ได้ให้ร่มเงาแด่พระพุทธองค์ และได้ทรงตรัสรู้ธรรมภายใต้ร่มโพธิ์
พระอาจารย์อำนาจ โอภาโส พร้อมด้วย พระอาจารย์ยงยุทธ สุรยุทฺโธ อีกทั้งญาติธรรม ได้นำกล้าโพธิ์ดังกล่าว ลงปลูกบริเวณลานโพธิ์ในวันวิสาขบูชา ปี พ.ศ. ๒๕๔๗ พร้อมทั้งทำพิธีเวียนเทียนรอบต้นพระศรีมหาโพธิ์ ในวันสำคัญทางศาสนาต่างๆ มาโดยตลอด นอกจากนี้ผู้ปฏิบัติธรรมเป็นใช้เป็นสถานที่เดินจงกรม ในการเจริญสติอีกด้วย
ได้รับเมตตาประทานมาจาก สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก เพื่อนำมาประดิษฐาน ณ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ให้พระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนถวายการสักการะบูชาต่อไป
สถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูป พุทธมหาสาวก “พระสีวลี”
ประวัติพระสีวลี
พระสีวลี เป็นโอรสของพระนางสุปปวาสา ราชธิดาแห่งโกลิยนคร ตั้งแต่ท่านจุติถือปฏิสนธิในครรภ์พระมารดา ได้ทำให้ลาภสักการะเกิดขึ้นแก่พระมารดาเป็นอันมาก (ท่านอาศัยอยู่ในครรภ์มารดานานถึง ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน)
สีวลีกุมาร เป็นผู้มีใจน้อมไปในการบวช เมื่อพระชนม์ ๗ พรรษา ได้กราบทูลขออนุญาตจากพระบิดาพระมารดา แล้วเสด็จไปยังพระอาราม ตามคำชักชวนของพระสารีบุตรเถระ
พระสารีบุตรเถระรับภาระเป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านได้สอนพระกรรมฐานเบื้องต้นแก่สีวลีกุมาร คือ ตจปัญจกกรรมฐาน (กรรมฐานที่ให้พิจารณาที่ตั้งทั้ง ๕ คือ เกสา (ผม) โลมา (ขน) นขา (เล็บ) ทันตา (ฟัน) ตโจ (หนัง) ว่าเป็นของไม่งามสกปรก ไม่ควรเข้าไปยึดติดหลงใหล สีวลีกุมาร ได้สดับพระกรรมฐานแล้วนำไปพิจารณา ในขณะที่กำลังจรดมีดโกน เพื่อโกนผมครั้งแรก ท่านได้บรรลุเป็นพระโสดาบัน จรดมีดโกนลงครั้งที่ ๒ ท่านได้บรรลุเป็นพระสกทาคามี จรดมีดโกนลงครั้งที่ ๓ ท่านได้บรรลุเป็นพระอนาคามี และเมื่อโกนผมเสร็จ ท่านได้บรรลุเป็นพระอรหันต์
เมื่ออุปสมบทแล้ว ด้วยอำนาจบุญบารมีที่สั่งสมมา ทำให้ท่านเป็นพุทธสาวกที่มีลาภสักการะมากมาย และลาภสักการะเหล่านั้นยังได้เผื่อแผ่ไปสู่พระสงฆ์สาวกท่านอื่นๆ ด้วย แม้พระบรมศาสดา เมื่อทรงพาหมู่ภิกษุสงฆ์เสด็จทางไกลกันดาร ถ้ามีพระสีวลีร่วมเดินทางไปด้วย ความขาดแคลนอาหารและที่พักอาศัยระหว่างทาง ก็จะไม่เกิดขึ้นแก่หมู่ภิกษุสงฆ์เลย
ด้วยเหตุนี้ พระพุทธองค์จึงทรงประกาศ ให้ปรากฏในหมู่พุทธบริษัท ตรัสยกย่องท่านในตำแหน่งเอตทัคคะ ผู้เป็นเลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในทาง “ผู้มีลาภมาก”
พระพุทธเจ้าที่ทรงเป็นที่รักและที่พึ่งของสามโลก พระพุทธรูปปางยืนภาวนา ขนาดสูง ๗.๕ เมตร
เสาหินแกะสลักด้วยความปราณีตขนาดใหญ่ที่มีความแข็งแรงเป็นอย่างมาก โดยรอบทิศทั้ง ๔ ด้านนั้นได้ถ่ายทอดเรื่องราวที่พระพุทธองค์ทรงมีชัยชนะเหนือหมู่มารทั้งหลาย ซึ่งมีพระสมเด็จพุทธะชัยมงคลชนะมารทรงประทับอยู่ด้านบนสุด
1. ครัวเขาค้อ
“ครัวเขาค้อ” เป็น ร้านอาหารสไตล์อาหารพื้นบ้าน อาหารป่า แต่รสชาติถูกใจคนเมืองเป็นยิ่งนัก ดูได้จากจำนวนลูกค้าที่พากันไปเยือนค่อนข้างเยอะ....... อ่านต่อได้ที่ : http://www.painaidii.com/diary/diary-detail/000134/lang/th/
2. ไร่จันทร์แรม
ข้อมูลเบื้องต้น : ร้านอาหารบรรยากาศดีบนเขาค้อ สามารถชื่นชมความสวยงามของดอกไม้เมืองหนาวสีสันสดใส และวิวทิวทัศน์ของทิวเขาที่โอบล้อมด้วยสายหมอกอย่างใกล้ชิด ....... อ่านต่อได้ที่ : http://www.painaidii.com/diary/diary-detail/000134/lang/th/
3. บ้านนายต๋อย
ร้านนายต๋อย เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารที่จะขอแนะนำสำหรับฝากท้องยามหิวโหย เมื่อมาเยือนเขาค้อ ยิ่งถ้าคุณเป็นคนที่ชอบเหล่าเมนูปลาประเภทต่างๆ....... อ่านต่อได้ที่ : http://www.painaidii.com/diary/diary-detail/000134/lang/th/
ลาษิก้า เขาค้อ
บ้านพักสไตล์ยุโรป และบริการเต็นท์ขนาดใหญ่ ลานกางเต็นท์ ใกล้น้ำตกศรีดิษฐ์ บ้านพักหรูบริเวณกว้างขวาง ราคา 2,500-14,000 บาท พร้อมอาหารเช้า ABF ติดต่อสอบถาม 092-524-2777 |
|
TheSense วิวทะเลหมอกเขาค้อ
รีสอร์ทหรูสไตล์ส่วนตัว ชมวิวทะเลหมอกจากห้องพัก ตั้งอยู่ในตำบลเขาค้อบริเวณจุดชมทะเลหมอกราคา 5,200-5,800 บาท |
|
เขาค้อออฟเลิฟ รีสอร์ท
รีสอร์ทบนเนินเขา ในต.เขาค้อ ใกล้น้ำตกศรีดิษฐ์ 2 กม. บริการบ้านพักหลังเล็ก 3 หลัง มีเต็นท์บ้านหล้งใหญ่ 6 หลัง สิ่งอำนวยความสะดวกครบ ราคา 1,500-5,500 บาท |
|
ค้อคีริน รีสอร์ท
รีสอร์ทขนาดเล็กบนเนินเขาใกล้วัดผาซ่อนแก้ว แคมป์สน บริการบ้านพักส่วนตัว 10 หลัง Low Season 1,900-7,000 บาท Hi Season 2,800-8,000 บาท |
|
เบสท์วิวโฮม
รีสอร์ทหรูขนาดเล็กในต.แคมป์สน ใกล้ถนนสาย 12 ใกล้วัดผาซ่อนแก้ว บริการบ้านพักสไตล์ยุโรป 7 หลัง ตกแต่งห้องสไตล์เจ้าหญิงในนิทาน มีเต็นท์รีสอร์ท ราคา 1,800-4,500 บาท ติดต่อสอบถาม 089-044-9001, 083-089-3074 |
|
ไร่ธาราทอง
รีสอร์ทขนาดกลาง พื้นที่กว้างขวาง ในเขตต.ริมสีม่วง บริการบ้านพัก 7 หลัง รวมห้องพัก 20 ห้อง ราคา 1,500 - 5,500 บาท บริการเต็นท์พักในรีสอร์ท |
|
เขาค้อฟ้าใสหมอกสวย รีสอร์ท
รีสอร์ทขนาดใหญ่ บนจุดชมวิวทะเลหมอก ห้องพักสไตล์โรงแรม และบ้านพักหลังเดี่ยว มากกว่า 30 ห้อง มีห้องประชุมสัมมนา ราคาห้องพัก 1,500 - 4,000 บาท |
|
ท็อปวิว รีสอร์ท
รีสอร์ทขนาดกลางพื้นที่กว้างขวาง ในต.หนองแม่นา ใกล้น้ำตกศรีดิษฐ์ บ้านพัก 13 หลัง ราคา 1,200-5,000 บาท บริการลานกางเต็นท์ |
|
บ้านบุตรา รีสอร์ท
รีสอร์ทขนาดเล็กบนเนินเขา บ้านเล่ากี่ ต.สะเดาะพง ใกล้พระตำหนักเขาค้อ บริการบ้านพักหลังเดี่ยว 6 หลัง พร้อมลานกางเต็นท์ ราคาบ้านพัก 800-3,000 บาท |
กฏระเบียบของวัด ดำริขึ้นเพื่อความสัปปายะ ความมีระเบียบของสถานที่ และเพื่อความเกื้อกูลต่อผู้ปฏิบัติธรรม
จึงขอความเมตตาจากทุกท่าน งดเว้นการขยายความใดๆที่อาจจะส่งผลกระทบต่อสถานที่และผู้ปฏิบัติภาวนา
ที่อยู่ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว
เลขที่ ๙๕ หมู่ ๗ บ้านทางแดง ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ๖๗๒๘๐
โทร. ๐๘๔ ๔๙๔ ๑๒๖๒ ช่วงเวลา ๑๓.๐๐ – ๑๖.๐๐ น.
email: info@phasornkaew.org