เลื่อนลงล่าง
การท่องเที่ยวบึงบอระเพ็ด บึงน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
เป็นบึงน้ำจืดซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีเนื้อที่ประมาณ 132,737 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอท่าตะโก และอำเภอชุมแสง พื้นที่บางส่วน ประมาณ 66,250 ไร่ ได้ประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ ป่าเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2518 บีงบอระเพ็ดมีลักษณะเป็นท้องน้ำและบึงกว้างใหญ่ มีเกาะเล็ก ๆ อยู่ในบึงประมาณ 10 เกาะ เป็นเกาะที่เกิดจากการทับถมตัวของพืชน้ำ มีพรรณไม้น้ำหลากหลายชนิด จึงเหมาะเป็นที่อยู่อาศัยสร้างรัง วางไข่ ของนกหลายชนิด มีทัศนียภาพสวยงาม
ในอดีตบึงบอระเพ็ดได้ชื่อว่าเป็น "ทะเลเหนือ" หรือ "จอมบึง" เพราะมีสัตว์และพันธุ์พืชน้ำอยู่มากมาย รู้จักกันมานานว่าเป็นแหล่งน้ำที่มีจระเข้ชุกชุม ปัจจุบันจระเข้ในบึงเหลืออยู่น้อยมาก จะมีให้เห็นก็ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดนครสวรรค์ ซึ่งได้เพาะพันธุ์และเลื้ยงไว้ให้นักท่องเที่ยวชมเท่านั้น เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดแหล่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ประมาณว่ามีพันธุ์ปลาต่าง ๆ ประมาณ 148 ชนิด พันธุ์พืชที่สำรวจพบขณะนี้ประมาณ 100 ชนิด บึงบอระเพ็ดเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงในด้านแหล่งอาศัยของฝูงนก มีนกประจำถิ่นและนกอพยพ รวมนับร้อยชนิด ชนิดที่สำคัญ ได้แก่ นกยาง นกนางแอ่น นกจาบคาเล็ก นกเป็ดน้ำ นกเอี้ยง นกอัญชัญ นกปากซ่อม นกกวัก นกกาบบัว นกเขา นกกระเรียน ฯลฯ เป็นแหล่งที่พบสัตว์หายากคือ นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร ปลาเสือตอ โดยเฉพาะนกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร เป็นนกที่พบที่บึงบอระเพ็ดนี้แห่งเดียวในโลก ซึ่งพบโดยคุณกิตติ ทองลงยา เมื่อปี พ.ศ.2511
บึงบอระเพ็ดเป็นระบบนิเวศพื้นที่ชุ่มน้ำ ประกอบด้วยพื้นที่น้ำขังซึ่งในฤดูน้ำหลากเป็นบึงน้ำใหญ่ผิวน้ำเปิดโล่ง บริเวณที่มีระดับความลึกของน้ำไม่มากนักมีพืชลอยน้ำเกาะกลุ่มอยู่ทั่วไป โดยเฉพาะทางตะวันตกเฉียงเหนือ พืชลอยน้ำเกาะกลุ่มใหญ่จนมองดูคล้ายเกาะลอย มีทุ่งบัว มีบริเวณที่เป็นเกาะซึ่งเดิมเป็นเนินดิน เมื่อสร้างประตูน้ำแล้วน้ำท่วมไม่มิด บริเวณที่ลุ่มชื้นแฉะ ป่าพรุและป่าละเมาะริมบึง ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างระบบนิเวศน้ำและบก น้ำท่วมเฉพาะในช่วงน้ำมาก มีพืชยืนน้ำขึ้นอยู่หนาแน่น และโดยรอบบึงเป็นทุ่งนาและทุ่งหญ้า เนื่องจากมีลำน้ำลำห้วยไหลลงสู่บึง พัดพาตะกอนและธาตุอาหารสะสมอยู่ จึงอุดมด้วยพืชและสัตว์นานาชนิด ที่สำคัญคือเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำวัยอ่อนให้กับแม่น้ำเจ้าพระยา และ
เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยหากินสร้างรังวางไข่ของนกนานาชนิด ทั้งนกประจำถิ่นและนกอพยพย้ายถิ่น
การเดินทาง จากตัวเมืองนครสวรรค์ไปบึงบอระเพ็ด สามารถไปได้หลายเส้นทาง ทางเรือ จากตลาดท่าน้ำเทศบาลเมืองนครสวรรค์ไปตามลำน้ำน่านผ่านขึ้นไปทางเหนือ ประมาณ 6 กิโลเมตร ถึงปากคลองหนองดุก เมื่อลอดใต้สะพานรถไฟเข้าไปก็จะถึงบริเวณบึง
ทางรถยนต์ สามารถเข้าถึงบึงบอระเพ็ดได้ 2 ด้าน คือ
1) ด้านเหนือ ไปตามเส้นทางสายนครสวรรค์-ชุมแสง ทางหลวงหมายเลข 225 ประมาณ 9 กิโลเมตร จะมีทางแยกขวาอีก 2 กิโลเมตร เข้าไปยัง สถานีพัฒนาประมงน้ำจืดบึงบอระเพ็ด ในบริเวณมี ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด จัดแสดงตู้ปลาน้ำจืดชนิดต่าง ๆ เช่น ปลากระโห้ ปลากระเบนขาว ปลากะพงขาว ปลาเทโพ ปลายี่สก ฯลฯ เปิดให้ชมฟรี ทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น. ยกเว้น วันพุธ
นอกจากนี้ยังมีบ่อเพาะพันธุ์จระเข้ มีเรือหางยาวนำชมบึง เรือลำเล็กจุได้ 5 คน ไม่รวมคนขับ ราคา 400 บาท เรือลำใหญ่จุได้ 10 คน ราคา 500 บาท เรือจะล่องไปถึงเกาะลัดและกลับใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง สามารถนำอาหารไปรับประทานบนเรือได้ มีเรือบริการระหว่างเวลา 09.00-17.00 น. แต่ถ้าล่องในช่วงแปดถึงเก้าโมงเช้าจะพบนกได้ง่ายกว่า สอบถามรายละเอียดได้ที่สถานีพัฒนาประมงน้ำจืดบึงบอระเพ็ด โทร. 0 5627 4501, 0 5623 0183
2) ด้านทิศใต้ของบึงบอระเพ็ด จากตัวเมืองใช้ทางหลวงหมายเลข 3001 สายนครสวรรค์-ท่าตะโก ประมาณ 20 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายตามป้ายอีก 4 กิโลเมตร ถึง อุทยานนกน้ำ หรือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด จัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ในบริเวณที่ตั้งสำนักงานมีสวนพักผ่อน มีนกหลายชนิดให้ชม
ข้อควรปฏิบัติเมื่อไปเที่ยวบึงบอระเพ็ด
1.ห้ามทิ้งขยะบริเวณพื้นที่ดังกล่าวรวมถึงบริเวณพื้นที่ลุ่มน้ำ
2.ห้ามจับสัตว์น้ำบริเวณบึงบอระเพ็ด
3.ห้ามลงไปในน้ำที่มีป้ายห้ามลงเพราะมีสัตว์อันตรายอยู่ในน้ำ
โทร. 0 5630 0040 เปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น. หรือศูนย์บริการนักท่องเที่ยวบึงบอระเพ็ด โทร. 0 5627 4525 www.buengboraphet.com