เลื่อนลงล่าง

เขาค้อ

08/05/59

Share

เมืองมะขามหวาน อุทยานน้ำหนาว ศรีเทพเมืองเก่า เขาค้ออนุสรณ์ นครพ่อขุนผาเมือง

เมืองมะขามหวานคือสมญานามของเพชรบูรณ์ จังหวัดที่อยู่ในเขตภาคเหนือตอนล่าง เป็นดินแดนแห่งขุนเขา ผืนป่าเขียวขจี ทัศนียภาพสวยงาม อากาศสดชื่นเย็นสบายตลอดปี โดยเฉพาะบริเวณเขาค้อ ที่ได้รับฉายาว่าเป็น “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย”

เพชรบูรณ์เดิมมีชื่อว่า "เพชรบุระ" หรือ "พืชปุระ" อันหมายถึงเมืองแห่งพืชพันธุ์ธัญญาหาร สันนิษฐานว่ามีการสร้างเมืองมาตั้งแต่ยุคสุโขทัย และยุคที่สองคือสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งเมืองนี้ทำหน้าที่เป็นเสมือนกำแพงชั้นนอกเพื่อป้องกันข้าศึกเข้ามารุกราน ต่อมาในสมัยอยุธยา เมืองเพชรบูรณ์กลายเป็นเมืองสำคัญในการเคลื่อนทัพผ่าน จนกระทั่งถึงสมัยรัชกาลที่ 6 เพชรบูรณ์ก็ถูกยกฐานะขึ้นเป็นจังหวัด 

ในยุคสมัยหนึ่ง เพชรบูรณ์กลายเป็นสมรภูมิสู้รบระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์กับรัฐบาลไทย โดยเฉพาะในบริเวณเขาค้อและภูหินร่องกล้า กลายเป็นพื้นที่สีชมพูยาวนานกว่า 13 ปี ปัจจุบันเขาค้อและภูหินร่องกล้ได้รับการพัฒนาจนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดเพชรบูรณ์

 1. อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว

          เริ่มกันที่ อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ถือเป็นหนึ่งในสถานที่นอนรับลมเย็น ๆ พร้อมนอนชมดาวในยามค่ำคืนได้เป็นอย่างดี ซึ่งพื้นที่อุทยานฯ เป็นพื้นที่ป่าขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมถึง 2 จังหวัด คือจังหวัดเพชรบูรณ์และจังหวัดชัยภูมิ และด้วยความสมบูรณ์ของอุทยานฯ ที่เต็มไปด้วยภูเขาสลับซับซ้อนทำให้มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี

         ส่วนสถานที่ท่องเที่ยว เช่น น้ำตกตาดพรานบา เป็นน้ำตกขนาดใหญ่บนหน้าผาสูงประมาณ 20 เมตร, จุดชมวิวถ้ำผาหงษ์ สำหรับชมพระอาทิตย์ตกในยามเย็น, จุดชมวิวภูค้อ สำหรับชมพระอาทิตย์ขึ้นและชมวิวกว้างไกล สามารถมองเห็นภูกระดึงและภูผาจิตได้, สวนสนบ้านแปกหรือดงแปก ป่าที่เต็มไปด้วยต้นสนสองใบขึ้นอยู่จำนวนมาก รวมทั้งเป็นสถานที่ชมดอกกล้วยไม้ป่าและพันธุ์ไม้แปลกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคมได้, ภูผาจิต (ภูด่านอีป้อง) เป็นภูเขาที่มีที่ราบบนยอดเขาคล้ายภูกระดึงเหมาะสำหรับชมวิวป่าสน, น้ำตกเหวทราย เป็นน้ำตกที่สูงที่สุดที่เกิดขึ้นจากห้วยสนามทราย ซึ่งเป็นแนวแบ่งเขตแดน และป่าเปลี่ยนสีในเดือนธันวาคม-มกราคมของทุกปี ผืนป่าบริเวณนี้จะผลัดใบเปลี่ยนสีอย่างสวยงาม เป็นต้น

 นอกจากนี้ยังตั้งอยู่ใกล้สะพานคอนกรีตเสริมเหล็กที่ตอม่อสูงสุดในประเทศไทยสูงถึง 50 เมตร คือ "สะพานข้ามห้วยตอง" และได้รับการตั้งชื่อเป็นทางการว่า "สะพานพ่อขุนผาเมือง" สถานที่ท่องเที่ยวสุดหวาดเสียวแต่แฝงไปด้วยความสวยงามและน่าทึ่ง ซึ่งผู้ที่เดินทางต้องระมัดระวังการเดินทางไปเที่ยวที่นี่เป็นอย่างมากด้วยค่ะ ทั้งนี้สามารถอัพเดทข่าวสารของอุทยานฯ ได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว (Namnao National Park)

2. ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเพชรบูรณ์

 ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเพชรบูรณ์ หรือชื่อเดิมสถานีทดลองเกษตรที่สูงเขาค้อ ตั้งอยู่เลขที่ 51 หมู่ 3 บ้านเสลียงแห้ง ตำบลสะเดาะพง อำเภอเขาค้อ เป็นหนึ่งในสถานีทดลองเกษตรที่สูงตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยธรรมชาติจนได้รับการขนานนามให้เป็น “สวิตเซอร์แลนด์แห่งเมืองไทย” ทำให้ที่นี่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวพักผ่อนในทุก ๆ ฤดู แถมยังสามารถเข้ามาชมแปลงผัก ผลไม้ ที่เป็นพืชเมืองหนาวได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีไม้ดอกไม้ประดับ สมุนไพร พร้อมทั้งป่าธรรมชาติที่เต็มไปด้วยต้นค้อ สัญลักษณ์ของอำเภอเขาค้ออีกด้วย

3. เขาค้อ


 เรียกได้ว่าเป็นดินแดนมหัศจรรย์แห่งการพักผ่อนเลยก็ว่าได้ สำหรับอำเภอเขาค้อ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดผู้คนทุกฤดูกาล สำหรับชื่อเขาค้อนั้นมาจากเดิมบริเวณนี้มีต้นค้อ ซึ่งเป็นต้นไม้ตระกูลปาล์มอยู่เป็นจำนวนมาก และนอกจากอากาศที่เย็นสบายแล้วที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายที่ เช่น อนุสาวรีย์จีนฮ่อ อนุสาวรีย์ทหารอาสาจากหน่วยรบกองพลที่ 93 ซึ่งมาช่วยรบในพื้นที่เขาค้อและเสียชีวิตในการสู้รบ, ฐานอิทธิ จุดชมวิวที่สวยงาม ซึ่งในอดีตเคยเป็นฐานสำคัญทางยุทธศาสตร์ ปัจจุบันจัดเป็นพิพิธภัณฑ์อาวุธ จัดแสดงปืนใหญ่ ซากรถถัง และอาวุธที่ใช้สู้รบกันบนเขาค้อ, อนุสาวรีย์ผู้เสียสละจารึกชื่อผู้เสียชีวิตจากการสู้รบในสงคราม เป็นต้น

 4. ภูทับเบิก

 เมื่อเอ่ยถึงชื่อ ภูทับเบิก หลายคนต้องนึกถึงวิวภูเขาไร่กะหล่ำปลี ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกขนาดใหญ่ของชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง และด้วยสถานที่ตั้งที่อยู่บนจุดที่สูงที่สุดของจังหวัดเพชรบูรณ์ ทำให้ที่นี่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยว เพราะมีอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี สามารถนอนกางเต็นท์ชมดาวในตอนกลางคืน นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น สถานีวิจัยเพชรบูรณ์แปลงทดลองทับเบิก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แหล่งสาธิตการปลูกพืชเมืองหนาว และวัดป่าภูทับเบิก ซึ่งมีพระมหาเจดีย์โพธิปักขิยธรรม เจดีย์เพชร 37 ยอด บรรจุพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอรหันต์ธาตุไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสักการะ และอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญคือในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม จะมีดอกนางพญาเสือโคร่งสีชมพูบานสะพรั่งไปทั้งภูเขา ให้ได้ถ่ายภาพความสวยงาม

5. ไร่กำนันจุล (ฟาร์มสเตย์)

 กำนันจุล คุ้นวงศ์ เป็นเกษตรกรเจ้าของไร่ส้มที่มีชื่อเสียงในจังหวัดเพชรบูรณ์มายาวนาน และยังเป็นเกษตรกรตัวอย่างที่ชอบค้นคว้าทดลองเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้พัฒนาการด้านการเกษตรอยู่เสมอ จนกลายเป็นแหล่งผลิตส้มขนาดใหญ่ที่ส่งออกไปยังต่างประเทศ ทำให้ชื่อเสียงของ “ไร่ส้มกำนันจุล” เป็นที่รู้จักมากขึ้น ปัจจุบันที่นี่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และเพียบพร้อมไปด้วยผลิตภัณฑ์แปรรูปอร่อย ๆ ที่ผลิตจากวัตถุดิบหลักที่ได้จากไร่, กลุ่มสินค้าผ้าไหมไทย, สินค้าเครื่องสำอางสมุนไพร รวมทั้งเปิดเป็นฟาร์มสเตย์สำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนด้วย ทั้งนี้สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารได้จากเว็บไซต์ www.chulthai.com และ เฟซบุ๊ก ไร่กำนันจุล 
 6. พระตำหนักเขาค้อ

           เป็นพระตำหนักที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เป็นที่ทรงงานและแปรพระราชฐานมาประทับแรมในวโรกาสที่เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรงานโครงการในพระราชดำริ และทรงตรวจเยี่ยมราษฎรอำเภอเขาค้อและอำเภอใกล้เคียงในอดีต ตั้งอยู่บนเขาย่า จุดชมวิวเมืองเขาค้อที่สามารถชมได้กว้าง 360 องศา ในส่วนของพระตำหนักเขาค้อเป็นอาคารเชื่อมต่อกันลักษณะรูปวงแหวน 2 ชั้น บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยสวนหย่อมที่ปลูกไม้ดอกนานาชนิด มีอากาศที่เย็นสบายเหมาะสำหรับการพักผ่อน บริเวณใกล้ ๆ กันมีบ้านพักทหารม้าซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวพักค้างคืนได้

 7. วัดมหาธาตุ

วัดเก่าแก่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ตั้งอยู่บริเวณถนนนิกรบำรุง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง สร้างขึ้นเมื่อประมาณ  พ.ศ. 1926 ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของพระประธานในพระอุโบสถ มีพระนามว่า “หลวงพ่องาม” และพระประธานในพระวิหารนามว่า “หลวงพ่อเพชรมีชัย” มีพระพุทธรูปบูชา พระเครื่อง พระพิมพ์ต่าง ๆ ตลอดจนวัตถุโบราณอื่น ๆ นอกจากนี้มีพระเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์แบบสุโขทัย ที่สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงสันนิษฐานว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่เปิดให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลได้อีกด้วย ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารได้จาก เฟซบุ๊ก วัดมหาธาตุ พระอารามหลวง เพชรบูรณ์  

 8. วัดไตรภูมิ


 ตั้งอยู่บนถนนเพชรรัตน์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง วัดโบราณที่ประดิษฐาน "พระพุทธมหาธรรมราชา" พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิสมัยลพบุรี หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้าง 13 นิ้ว สูง 18 นิ้ว ไม่มีฐาน พระพักตร์กว้าง มีลักษณะเป็นเหลี่ยม พระโอษฐ์แบะ ประดิษฐานบนโต๊ะบูชาในศาลาไม้ ซึ่งถูกพบครั้งแรกที่แม่น้ำป่าสัก มีจำนวนสององค์ องค์จริงคือองค์บนสุด ส่วนองค์ที่อยู่ด้านล่างหล่อจำลองขึ้นใหม่เพื่อใช้ประกอบพิธีอุ้มพระดำน้ำในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 เป็นประจำทุกปี
 9. วัดช้างเผือก


 วัดเก่าแก่อายุกว่า 300 ปี ตั้งอยู่ที่ตำบลวังชมภู อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ภายในวัดโดดเด่นด้วย รูปปั้นช้างเผือกเป็นสัญลักษณ์ ภายในวัดมีจิตรกรรมฝาผนังเรื่องพระเวสสันดรชาดก และเป็นที่เก็บรักษาสรีระที่ไม่เน่าเปื่อยของพระครูวิชิต พัชราจารย์ หรือ "หลวงพ่อทบ" พระที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่เคารพของชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียง บรรจุอยู่ในโลงแก้วภายในมณฑป พร้อมเปิดให้ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์และนักท่องเที่ยวได้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลกันเป็นจำนวนมาก
10. วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว

ตั้งอยู่บนเนินเขาในหมู่บ้านทางแดง ตำบลแคมป์สน ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2547 เพื่อเป็นที่สอนปฏิบัติการเจริญสติปัฏฐาน 4 ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามและเงียบสงบ มีภูเขาที่สูงใหญ่ซ้อนกันเป็นทิวเขาเรียงรายโอบรอบบริเวณศาลาปฏิบัติธรรม และบนยอดเขาสูงตระหง่านนั้นมีถ้ำอยู่บนปลายยอดเขา ซึ่งมีชาวบ้านทางแดงหลายคนได้เห็นลูกแก้วลอยเหนือฟากฟ้า และลับหายเข้าไปในถ้ำบนยอดผา ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมา และต่างถือว่าเป็นสถานที่มงคล มีความศักดิ์สิทธิ์และเรียกตาม ๆ กันว่า “ผาซ่อนแก้ว” โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่www.phasornkaew.org  

11. อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง (หนองแม่นา)

อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง (หนองแม่นา) หรือ “ทุ่งหญ้าสะวันนาแห่งเมืองไทย” สถานที่ท่องเที่ยวขนาดใหญ่ที่ครอบคลุม 2 จังหวัด คือ จังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดเพชรบูรณ์ มีหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ สล. 8 (หนองแม่นา) ตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ และอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ด้านจังหวัดพิษณุโลกประมาณ 60 กิโลเมตร ซึ่งจุดท่องเที่ยวด้านจังหวัดเพชรบูรณ์ส่วนใหญ่เป็นป่าสนธรรมชาติและทุ่งหญ้าสะวันนา ที่มีทิวทัศน์และพรรณไม้ดอกที่สวยงามโดยเฉพาะช่วงปลายฤดูฝน-ฤดูหนาว เหมาะแก่กิจกรรมเดินป่า กางเต็นท์พักแรม และปั่นจักรยานเสือภูเขา

      ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของที่นี่ ได้แก่ ทุ่งนางพญา ป่าสนสองใบสลับกับป่าดิบแล้งและป่าเต็งรัง ซึ่งตามกิ่งสนจะพบกล้วยไม้ป่าที่สวยงาม เช่น เอื้องชะนีและเอื้องคำปากไก่, แก่งวังน้ำเย็นเป็นแก่งหินขนาดใหญ่ยาวหลายร้อยเมตร ในระหว่างแก่งแต่ละแก่งเป็นวังน้ำลึกขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสถานที่ค้นพบแมงกะพรุนน้ำจืด และเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ผีเสื้อบริเวณริมลำธารหลายชนิด เป็นต้น
12. ทุ่งทานตะวันที่บึงสามพัน

  ตั้งอยู่บริเวณบ้านเขาพลวง บ้านป่ายาง ตำบลสระแก้ว อำเภอบึงสามพัน มีการปลูกทานตะวันครอบคลุมเต็มไปทั้งพื้นที่กว่าหมื่นไร่ ซึ่งจะบานสะพรั่งต้อนรับสายลมหนาวในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคมของทุกปี นอกจากจะได้มาท่องเที่ยวถ่ายรูปสวย ๆ แล้วที่นี่ยังจัดงาน “ตะวันบานบนภูที่บึงสามพัน” ซึ่งภายในงานก็จัดให้มีกิจกรรมหลาย ๆ อย่าง เช่น การจัดประกวดดอกทานตะวันที่ใหญ่ที่สุด การประกวดธิดาตะวัน การแปรรูปเมล็ดทานตะวัน และการจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถชมและซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านได้อีกด้วย ทั้งนี้สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อบต. สระแก้ว โทรศัพท์ 0-5681-0801 หรือที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพิษณุโลก โทรศัพท์  0-5525-2742-3
 13. เนินมหัศจรรย์

เรียกได้ว่าที่นี่ยังคงรอคอยให้นักท่องเที่ยวไปท้าพิสูจน์กันอยู่เสมอเลยก็ว่าได้ สำหรับเนินมหัศจรรย์ที่ตั้งอยู่บริเวณจุดผ่านเล็ก ๆ อยู่กิโลเมตร ที่ 17-18 ของทางหลวงหมายเลข 2258 (นางั่ว-สะเดาะพง) ตำบลริมสีม่วง อำเภอเขาค้อ  ความมหัศจรรย์ของเนินมหัศจรรย์ที่นิยมทดลองกันมากที่สุด คือจอดรถดับเครื่องและปล่อยเกียร์ว่าง รถจะไหลขึ้นเนินสูงได้เองไกลประมาณ 10 เมตร โดยมีการพิสูจน์ปรากฏการณ์ดังกล่าวมาแล้วพบว่าเกิดจากภาพลวงตา เนื่องจากวัดระดับความสูงของเนินจะมีระดับต่ำกว่า ช่วงที่เป็นทางขึ้นเนิน ดังนั้นรถจึงถอยหลังตามแรงโน้มถ่วงของโลก
 14. อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ


  แหล่งโบราณสถานที่สำคัญอายุกว่า 1,000 ปี ลักษณะเป็นเมืองโบราณที่มีคูน้ำและคันดินล้อมรอบ พื้นที่ทั้งหมดประมาณ 2,899 ไร่  แบ่งเป็น 2 ส่วน คือเมืองส่วนในบนพื้นที่ 1,300 ไร่ มีลักษณะเป็นรูปเกือบกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.5 กิโลเมตร มีช่องทางเข้าออก 6 ช่องทาง พื้นที่ภายในเป็นที่ราบลอนคลื่น มีสระน้ำ หนองน้ำกระจายอยู่ทั่วไป พบซากโบราณสถานกว่า 70 แห่ง บางแห่งได้รับการขุดแต่งบูรณะแล้ว และเมืองส่วนนอกบนพื้นที่ 1,589 ไร่ มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าต่อกับเมืองส่วนใน ขนาดเป็น 2 เท่าของเมืองส่วนใน มีช่องทางเข้าออก 6 ช่องทาง มีสระน้ำกระจายอยู่ทั่วไป
15. ถนนคนเดินไทหล่ม

 ถนนคนเดินไทหล่ม ตั้งอยู่ที่ถนนรณกิจ อำเภอหล่มสัก ตลอดสองฟากฝั่งถนนสายรณกิจนี้ยังคงเป็นบ้านเรือนไม้โบราณ 2 ชั้น ตั้งเรียงรายซึ่งถือว่าเป็นถนนสายเก่าแก่ของอำเภอหล่มสัก เปิดทุกเย็นวันเสาร์ เวลา 17.00-22.00 น.พ่อค้าแม่ค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวอำเภอหล่มสักจะมาตั้งร้านค้าเรียงรายตลอดถนนเส้นนี้ จำหน่ายอาหารพื้นเมืองที่หารับประทานยาก เช่น ขนมจีนไทหล่ม ปิ้งไก่ข้าวเบือ ข้าวหลามพญาลืมแกง ฯลฯ สินค้าพื้นเมือง เสื้อผ้า เครื่องประดับ สินค้าทำมือของชาวบ้านที่สามารถซื้อเป็นของฝาก ของที่ระลึก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เทศบาลเมืองหล่มสัก โทรศัพท์ 0 5670 1060

16. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าผาแดง

   ปิดท้ายด้วย "เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าผาแดง" ภายในอำเภอหล่มสัก อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวน่าไปที่หลายคนอาจจะไม่รู้จักมากนัก แต่ที่นี่กลับแอบซ่อนจุดชมวิวที่สวยงามเอาไว้ นั่นก็คือ "ผาแดง" มีลักษณะที่โดดเด่นด้วยชะง่อนผาที่ยื่นออกไปกลางอากาศ และเมื่อไปยืนอยู่บริเวณใกล้ ๆ ชะง่อนผาก็จะสามารถมองเห็นวิวความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีบริเวณป่าแดง รวมทั้งยังสามารถชมพระอาทิตย์ตกในยามเย็นได้อย่างโรแมนติกอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับตั้งแคมปิ้ง (แต่ต้องเตรียมเสบียงมาเอง) ให้นักท่องเที่ยวได้พักค้างคืนเพื่อสัมผัสธรรมชาติได้อีกด้วย
 เรียกได้ว่าเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำสำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังวางแผนไปเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์ ดินแดนที่เต็มไปด้วยความสวยงามของธรรมชาติ ว่าแล้วหน้าฝนนี้ลองแวะไปเที่ยวให้ชุ่มฉ่ำกันที่เพชรบูรณ์กันดีกว่าค่ะ
 

อาหารการกินในจังหวัดเพชรบูรณ์มีให้เลือกมากมาย ทั้งอาหารตามสั่ง อาหารจานเดียว สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบลิ้มรสอาหารท้องถิ่น ร้านอาหารในตัวเมือง ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ และในตลาดสด มีอาหารพื้นเมืองหลายเมนูให้ลองชิม
สำหรับสถานบันเทิงแนวไนต์ไลฟ์นั้น ในตัวเมืองเพชรบูรณ์มีผับหลายแห่งเปิดให้บริการ รวมทั้งในโรงแรม รีสอร์ตส่วนใหญ่ ก็มีผับ บาร์ ที่น่าไปนั่งจิบเครื่องดื่ม พร้อมฟังดนตรีเพราะๆ ในยามค่ำคืน

จังหวัดเพชรบูรณ์มีโรงแรมขนาดกลาง รีสอร์ต และเกสต์เฮาส์ จำนวนมาก ราคาห้องพักเริ่มตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลายพันบาท ขึ้นอยู่กับประเภทของห้องพักและที่ตั้ง
นอกจากนี้ เพชรบูรณ์ยังมีอุทยานแห่งชาติหลายแห่งที่มีบริการบ้านพัก จุดกางเต็นท์ และเต็นท์ให้เช่าในราคาย่อมเยา สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบและต้องการใกล้ชิดธรรมชาติเป็นพิเศษ รวมทั้งผู้ที่นิยมการพักผ่อนในบรรยากาศแบบแค้มปิ้งด้วย เช่น อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ฯลฯ

การเดินทาง ที่สะดวกมี 2 เส้นทาง คือ...

          เส้นทางที่ 1. จากเพชรบูรณ์ไปเขาค้อใช้ทางหลวงหมายเลข 21 เส้นเพชรบูรณ์-หล่มสัก ถึงสามแยกนางั่ว ระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 2258 อีก 30 กิโลเมตร

          เส้นทางที่ 2  จากทางหลวงหมายเลข 12 เส้นพิษณุโลก-หล่มสัก บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 100 บ้านแคมป์สน เลี้ยวเข้าเขาค้อตามทางหลวงหมายเลข 2196 อีกประมาณ 33 กิโลเมตร  เส้นทางนี้จะผ่านที่พักรีสอร์ทหลายแห่ง

          หมายเหตุ : พาหนะที่จะขึ้นเขาค้อ ไม่ควรใช้รถบัสขนาดใหญ่ เพราะมีทางโค้งมาก ถนนค่อนข้างแคบและลาดชัน ควรใช้รถปิคอัพหรือรถตู้สภาพดี  และควรขับขี่ด้วยความระมัดระวัง  นักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยรถประจำทางสามารถติดต่อรถสองแถวขึ้น เขาค้อได้ที่ บริษัท เขาค้อเดินรถ จำกัด โทร. 08 1886 1811 ราคาเช่าเหมาประมาณ 1,000-1,500 บาท โดยมีคิวรถอยู่ที่บริเวณแค้มป์สน กม.100 และที่บ้านนางั่ว

เตรียมตัวมาให้พร้อม

Chanamon.prai@gmail.com

แผนที่

บทวิจารณ์

Login For Reviews

แสดงความคิดเห็น

หัวข้อ
อ่านรีวิวโดย
วันที่
Tag
Browse Icon ขนาดภาพ 250 x 250 px